วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555

มารู้วิธีลดริ้วรอย ที่คุณคาดไม่ถึงกัน




    มารู้วิธีลดริ้วรอย ที่คุณคาดไม่ถึงกัน

     ริ้วรอยบนใบหน้า สิ่งสำคัญที่ทำให้คุณผู้หญิงดูมีอายุมากกว่าอายุจริง ซึ่งบางทีแล้วการรู้จักที่จะดูแลตัวเอง ด้วยเรื่องใกล้ตัว ก็ช่วยให้ริ้วรอยบนใบหน้าของคุณลดลงได้ ไม่เชื่อใช่ไหมล่ะค่ะ งั้นเราไปลดริ้วรอยด้วยวิธีต่างๆ กัน

มารู้วิธีลดริ้วรอย ที่คุณคาดไม่ถึงกัน

“ริ้วรอย” คำที่คุณผู้หญิงไม่ค่อยชอบนัก ยิ่งถ้าคุณมีริ้วรอยมากจนเกินอายุจริงด้วยแล้ว อาจสร้างปัญหาให้กับ

คุณตามมา ต่อให้คุณใช้ครีมบำรุงราคาแพง แต่ใช้แล้วริ้วรอยก็ไม่หายไปเสียที แบบนี้คุณผู้หญิงยิ่งต้องเครียดมากขึ้นแน่นอน ริ้วรอยเกิดขึ้นได้ถ้าเราไม่ระวังกับการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนไม่ค่อยใส่ใจกับใบหน้า หรือไม่สังเกตุริ้วรอยเล็กๆ ที่กำลังมาปัญหาก็ตามมาแน่นอน งั้นเราลองไปเรียนรู้วิธีการดูแล และป้องกันริ้วรอย กับการใช้ชีวิตประจำวันของคุณสาวๆ กันค่ะ

 
การนอนหงาย
สมาคมแพทย์ผิวหนังอเมริกันแนะนำว่า การนอนในท่าใดท่าหนึ่งเพียงท่าเดียวทุกๆ คืนจะทำให้หน้ายับ ก่อนจะกลายเป็นริ้วรอยที่เห็นได้ชัดบนผิวหน้า และไม่เลือนหายไปแม้ว่าคุณจะลุกขึ้นมาแล้วก็ตาม โดยการนอน
ตะแคงข้างจะเพิ่มริ้วรอยที่แก้มและคาง ขณะที่การนอนคว่ำจะทำให้เกิดรอยย่นบนหน้าผาก ฉะนั้นเพื่อลดการก่อตัวของริ้วรอยแนะนำให้สาวๆ เปลี่ยนมานอนหงายแทน แม้ว่าอาจจะไม่ชินในช่วงแรก และเผลอพลิก
ไปนอนในท่าที่เคยชินตอนหลับไปแล้ว แต่ก็ยังดีกว่านอนตะแคง หรือนอนคว่ำอย่างเดียวโดยไม่เปลี่ยนท่าเลยตลอดคืนน่ะค่ะ

 
รับประทานปลาให้มากขึ้น
อันนี้ฝรั่งเขาแนะนำให้รับประทานปลาแซลมอน ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีแล้ว ยังอุดมไปด้วยวิตามินที่ดีต่อผิว เพราะว่ามีส่วนประกอบของกรดไขมันจำเป็นที่ชื่อว่ากรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งทำให้ผิวหนัง
ชุ่มชื้น ยืดหยุ่น เด้งดึ๋ง และดูอ่อนเยาว์ รวมถึงช่วยลดเลือนริ้วรอยด้วย แต่สำหรับคนไทยอาจจะหันมารับประทานปลาสวาย ปลาไทยๆ ราคาไม่แพง แต่อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 ไม่แพ้ปลาชนิดไหนในโลก
แทนก็ได้ ไม่ต้องรับประทานปลาแซลมอนให้เปลืองสตางค์

 
เลิกหยีตา แล้วหาแว่นมาใส่ด่วน
สมาคมแพทย์ผิวหนังอเมริกันแนะนำว่า การขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้าซ้ำๆ อย่างเช่นการหยีตา จะทำให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าต้องทำงานหนักเกินไป และทำให้เกิดร่องลึกที่ชั้นใต้ผิวหนัง ซึ่งร่องลึกเหล่านี้จะพัฒนาไปเป็นริ้วรอยอย่างถาวร ฉะนั้นทำตาโตๆ กันเข้าไว้ โดยการใส่แว่นสำหรับอ่านหนังสือ (ถ้าจำเป็นต้องใช้ เพราะสายตาสั้น) รวมถึงควรใส่แว่นกันแดดเพื่อปกป้องผิวหนังรอบๆ ดวงตาไม่ให้ถูกแสงแดดทำร้าย และเพื่อคุณจะได้ไม่ต้องหยีตาหลบแดดอีกด้วย

 
ผิวสวยด้วยกรดผลไม้
เพราะกรดผลไม้ช่วยลอกเซลล์ของชั้นผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดออกไป จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยจางๆ และริ้วรอยลึกๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งริ้วรอยรอบๆ ดวงตา โดยมีหลักฐานชิ้นใหม่แสดงว่า กรดผลไม้ที่มีความ
เข้มข้นสูง จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อีกด้วย

 
เปลี่ยนจากกาแฟมาเป็นโกโก้
ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในปี 2006 ใน the Journal of Nutrition รายงานว่า โกโก้มีสารประกอบ flavonol 2 ชนิด คือ เอพิคาเตซิน และคาเตซิน ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของแสงแดด ทำให้การหมุนเวียนของเลือดเข้าสู่เซลล์ผิวหนังได้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวนุ่มเนียนมากขึ้น

 
อย่าล้างหน้าบ่อยเกินไป
แพทย์ผิวหนังบอกว่า น้ำประปาจะรบกวนน้ำมันที่ผิวหนังสร้างขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยปกป้องผิวไม่ให้เกิดริ้วรอย ดังนั้นการล้างหน้าบ่อยๆ จะล้างสิ่งที่ปกป้องผิวหนังออกไป เว้นแต่ว่าสบู่ที่คุณใช้จะมีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยปกป้องผิว จึงขอแนะนำให้ใช้เคลนเซอร์ล้างหน้าแทนสบู่

 
ใช้วิตามินซีชนิดทา
ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Tulane และผลการศึกษาจากที่อื่นพบว่า วิตามินซีสามารถเพิ่มการผลิตคอลลาเจน ช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของรังสียูวีเอและยูวีบี ทำให้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอลดลง รวมถึงทำให้ภาวะผิวหนังอักเสบมีอาการดีขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิตามินซีที่ใช้ด้วย ปัจจุบันผลการวิจัยส่วนมากพบว่า กรดแอล-เอสคอร์บิก สามารถลดริ้วรอยได้มากที่สุด

 
กินถั่วเหลืองมากขึ้น
ผลการวิจัยแสดงว่า ถั่วเหลืองอาจจะช่วยปกป้องหรือเยียวยาผิวที่ถูกแสงแดดทำร้ายได้ โดยผลการศึกษาชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน The European Journal of Nutrition รายงานว่าอาหารเสริมที่มีถั่วเหลืองเป็นส่วนประกอบพื้นฐานชนิดหนึ่ง ซึ่งมีวิตามินต่างๆ โปรตีนจากปลา และสารสกัดจากชาขาว เมล็ดองุ่น และมะเขือเทศเป็นส่วนประกอบด้วย ช่วยทำให้โครงสร้างของผิวดีขึ้นภายใน 6 เดือน

  ดูแลผิวด้วยวิธีการที่ถูกต้อง
ถ้าคุณต้องการรักษาผิวให้ดูอ่อนเยาว์ ควรเริ่มต้นการดูแลอย่างถูกต้อง ด้วยวิธีที่คุณอาจจะเคยได้ยินซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่เคยทำเลย ดังนี้
หลีกเลี่ยงแสงแดด
ทาครีมกันแดด
ไม่สูบบุหรี่
บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์
เพียงเท่านี้คุณก็บอกลาริ้วรอยบนใบหน้าของคุณไปได้เลยล่ะค่ะ




กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เติมเต็มริ้วรอยรู้สึกได้ใน5นาที
ผลิตและวิจัยโดย ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา คลิ๊ก!!!





ค่าต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุดในโลก
ที่โด่งดังจากคลิป โดม กินวิตามิน
วีว่าพลัส VIVA plus

ส้ม กีวี่ แตงโม แก้วมังกร ผลไม้เพื่อสุขภาพ



ส้ม
ผลไม้รสอมเปรี้ยวอมหวาน ยิ่งกินยิ่งอร่อย มากคุณค่าและยังให้ใยอาหารูง แต่สาวๆหก็ควรระวังนิดนึง ควรกินอย่างพอเหมาะเพราะผลไม้ชนิดนี้ให้พลังงานสูงเมื่อเทียบกับผลไม้อื่นๆ ที่กินเพื่อลดน้ำหนัก และไม่ควรแกะกากหรือเส้นใยองส้มออก เพราะนั่นคือสิ่งที่ช่วยให้รู้สึกอิ่มสบายท้อง

กีวี่
นอก จากกินแล้วไม่เลี่ยน ยังมีกากใยสูง กินแล้วอิ่มเร็วและนาน มีวิตามินซี อี สูง ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ บำรุงผิว ลดคอเลสเตอรอล สลายไขมัน ดังนั้นการกินกีวี่เพื่อลดน้ำหนักจึงเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย

แตงโม
ให้ พลังงานและไขมันน้อยนิด เมื่อเทียบกับปริมาณแตงโมผลโตๆหรือชิ้นใหย่ที่กินเข้าไป และด้วยความชุ่มช่ำของแตงโมนี้เองจึงทำให้รู้สึกอิ่ม สามารถกินแทนมื้อเย็นได้อีกด้วย

แก้วมังกร
มีทั้งเนื้อที่มีสีขาว สีม่วง เป้นผลไม้ที่มีแคลอรี่ต่ำ ให้กากใยสูง รสหวานกินง่ายสบายท้อง สามารถกินแบบเปล่าๆ เหมือนกินผลไม้ทั้วไปหรือนำมากินรวมกับสลัดก็อร่อยไปอีกแบบ

ขอบคุณ : หนังสือพิมพ์ M2F









Calcitone แคลซิโทน FoodMatrix Calcium แคลเซียม ดูดซึมได้ถึง90% คงสภาพในร่างกายสูงสุด36ชั่วโมง และมีโปรตีนนำพาไปใช้ได้ตรงจุด (สินค้ายอดนิยม)

Calcitone แคลซิโทน FoodMatrixCalcium แคลเซียม ดูดซึมได้ถึง90% คงสภาพในร่างกายสูงสุด36ชั่วโมง และมีโปรตีนนำพาไปใช้ได้ตรงจุด




BIM” (OPERATION BIM ด้วยความปราถนาดีอยากให้ประชากรทุกคนในโลกมีสุขภาพแข็งแรงดี อายุยืน จากชมรมคนอายุ 100 ปี BIM100  “BIM” (OPERATION BIM) ด้วยความปราถนาดีอยากให้ประชากรทุกคนในโลกมีสุขภาพแข็งแรงดี อายุยืน จากชมรมคนอายุ 100 ปี BIM100ด้วยสารสกัด GM-1 แซนโทนส์ที่ดีที่สุดจากมังคุด จนก่อให้เกิดอุตสาหกรรมที่ใช้ธัญพืชและผลไม้ในประเทศไทยเป็นวัตถุดิบ และส่งผลให้เกิดการยกระดับราคาของผลผลิตทางธรรมชาติเหล่านี้อย่างต่อเนื่องมั่นคงต่อไป 

อาธริน็อกซ์ (ข้ออักเสบและSLE) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับผู้ที่มีปัญหา ข้อเข่าอักเสบ, ข้อเข่าเสื่อม,รูมาตอยด์,เกาต์ และSLE

นาฬิกาชีวิตกับความอ้วน






ในงานวิจัยนั้น ดร.คาธีย์ ไวส์ นักวิจัยด้านชีววิทยาจังหวะเวลามหาวิทยาลัยอาเบอร์ดีน สก็อตแลนด์ ได้ทำการศึกษาว่า จังหวะเวลาของมนุษย์ที่ต้องปรับให้เข้ากับเวลาอาหารที่เปลี่ยนไป การนอนและเวลาการทำงานที่แตกต่างไปจากเดิมนั้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือแม้กระทั่งความอ้วนหรือไม่ อย่างไร

"แสงไฟทำให้การปรับตัวระหว่างนาฬิกาชีวภาพของมนุษย์กับจังหวะธรรมชาตินั้นเปลี่ยนแปลงไป และในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา เราแทบไม่มีจังหวะในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นมื้ออาหาร การนอน และการทำงานเลย" ดร.ไวส์เผย "นาฬิกาชีวภาพของมนุษย์ต้องพยายามสุดขีดที่จะปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตที่ไม่เป็นจังหวะของเรา และผมก็เชื่อว่า นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้กระบวนการเมตาบอลิซึมและสุขภาพของร่างกายมีปัญหา และมีโอกาสที่จะทำให้คนๆนั้นอ้วนขึ้นมาได้"





ทริมวัน โลชั่น (Special Formula)โลชั่นสลายไขมัน ลดกระชับสัดส่วน

ลดรอบเอว เซลลูไลท์ ดีที่สุดในโลกบันทึกลงกินเนสบุ๊ค ลด1-3นิ้วใน1ชั่วโมง