วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

อาหาร 7 อย่างห้ามกินตอนท้องว่าง

1.กล้วย
เพราะกล้วยอุดมไปด้วยธาตุแมกนีเซียม การรับประทานกล้วย ขณะท้องว่าง จะทำให้ปริมาณธาตุแมกนีเซียมในเลือดสูงขึ้น ทำให้สูญเสียสัดส่วนของแคลเซียมและแมกนีเซียมไป เป็นการยับยั้ง การทำงานของหลอดเลือดหัวใจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อย่างยิ่ง

2.กระเทียม
เพราะจะทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหาร ได้รับการกระตุ้นเกิด โรคกระเพาะอาหารอักเสบอย่างรุนแรง

3.ผัก
การรับประทานผักอย่างเดียวขณะท้องว่าง จะทำให้กระเพาะอาหารเกิดอาการผิดปรกติ นอกจากนั้น ยังไม่ควรอาบน้ำ และออกกำลังกายด้วยเช่นกัน เพราะการอาบน้ำและการออกกำลังกาย ในขณะที่ท้องว่าง จะทำให้เกิดอาการช็อก เนื่องจากน้ำตาลในเลือดต่ำได้ง่าย

4.นมและนมถั่วเหลือง
แม้ว่านมถั่วเหลืองจะอุดมไปด้วยโปรตีน แต่จะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อกระเพาะอาหาร มีสารอาหารประเภทแป้งอยู่ด้วย

5.น้ำตาลหรืออาหารหวาน
ไม่ควรรับประทานอาหารหวาน หรือน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม ช็อกโกแลต เพราะหากรับประทานขณะท้องว่าง จะทำให้โปรตีนรวมตัวกับน้ำตาลส่งผลต่อการดูดซึมโปรตีนทุกชนิด และลดสมรรถภาพการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือดและไต

6.ชาที่แก่เกินไป
ชาทำให้กรดเกลือในน้ำย่อย ในกระเพาะอาหารเจือจาง ส่งผลให้การทำงาน ของระบบย่อยอาหารลดลง และเกิดอาการใจสั่น เวียนศีรษะ มือเท้าไม่มีแรง จิตใจไม่สงบ

7.ลูกพลับ
ไม่ควรรับประทานลูกพลับในขณะที่ท้องว่าง เพราะกระเพาะอาหารจะหลั่งกรดเกลือออกมามาก หากไปรวมตัวกับยาง และสารแขวนลอยในลูกพลับแล้วจะทำให้เจ็บหน้าอก คลื่นไส้ และเป็นแผลในกระเพาะอาหาร

FOS Detox Apple Flavor - ฟอส ดีท็อกซ์ รสแอปเปิ้ล

ไม่ใช่การบังคับให้ขับถ่ายแบบหมดไส้ หมดพุง หรือปวดท้องทรมานก่อนการขับถ่าย แต่เป็นการ ดีท็อกซ์แบบองค์รวมที่ไม่เพียงแค่ขับสารพิษออกจากร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ยังช่วยปรับสมดุลระบบการทำงานของร่างกายให้คุณอีกด้วย เพียงทานและปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง 3-5 วัน*

ผลลัพธ์ที่ได้คือ สุขภาพของคุณจะดีขึ้นตามลำดับอย่างเห็นได้ชัด เช่น

การขับถ่ายจะสะดวกขึ้นใน 1 วัน

การดูดซึมอาหารจะดีขึ้นใน 3 วัน

กลิ่นผายลมจะลดลงใน 3 วัน

ระบบขับถ่ายจะเข้าสู่ภาวะสมดุลใน 7 วัน

กลิ่นปากและกลิ่นตัวลดลงใน 7 วัน

ผิวพรรณจะเปล่งปลั่งขึ้นใน 14 วัน

ระบบเลือดจะสะอาดขึ้นใน 14 วัน

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม คลิ๊ก!!!

http://goo.gl/iEay9v หรือ http://www.JumbolifeShop.com

โทร.089-071-8889 , 094-435-0404

line id : JumbolifeShop

www.facebook.com/Jumbolifeshop

อยากหุ่นดีแบบซุปตาร์ ต้องแก้ความเชื่อผิดๆ

เมื่อเห็นเหล่าซุปตาร์ ดนดังในวงการแต่ละคนแล้ว เชื่อได้เลยว่าผู้หญิงอย่างเราๆคงจะแอบอิจฉาในความสวยเป๊ะ ทั้งหน้าตา และรูปร่างอันสมส่วน ไม่ได้ เพราะถึงแม้ว่างานจะรัดตัวศิลปินดาราแค่ไหน แต่เจ้าตัวก็ไม่เคยลืมที่แบ่งเวลามาดูแลสัดส่วนของตัวเองเลย

นอกจากการควบคุมอาหารอย่างถูกวิธี ผสมกับการแบ่งเวลามาออกกำลังกายอย่างเป็นประจำแล้ว คิดว่าคงมีหลายวิธีเหมือนกันที่ผู้หญิงจะเข้าใจผิดมาตลอด และเชื่อว่าสิ่งนั้นส่งผลดีต่อร่างกาย และสามารถควบคุมน้ำหนักได้จริง

วันนี้เลยขอเอาวิธีที่หลายคนคิดว่าถูกมาปรับแนวคิดให้เป็นเรื่องที่ถูกต้องจริงๆเสียใหม่ ลองมาดูกันดีกว่าว่า ข้อไหนบ้างที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราเข้าใจผิดมาเสมอ

ข้อ 1. เคยคิดว่า - ไม่ต้องกินอาหารเช้าก็ได้ เดี๋ยวรวบไปกินมื้อกลางวันทีเดียว
แท้จริงนั้น - ร่างกายของคุณจะอิดโรยหลังจากขาดอาหารมาหล่อเลี้ยงในช่วงกลางคืน อาหารเช้าจึงเป็นมื้อสำคัญในการเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน เพราะคุณจะยิ่งกินมื้อกลางวันและมื้อเย็นไปเยอะโดยไม่รู้ตัว กินอาหารเช้าแล้วไม่ต้องกลัวด้วย เพราะพลังงานจะถูกใช้ไประหว่างวันอยู่แล้ว

ข้อ 2. เคยคิดว่า - อย่ากินอาหารหลัง 6 โมงเย็นเพราะจะทำให้อ้วน
แท้จริงนั้น - ไม่เกี่ยวกับว่าคุณกินอาหารเมื่อไหร่ แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือคุณกินอะไรต่างหาก ต่อให้คุณกินพิซซ่าตอน 5 โมงเย็นก็ทำให้อ้วนได้ นอกจากนั้นถ้าไม่อยากอึดอัดตอนนอน ก็ไม่ควรกินอาหารจนอิ่มเกิน

ข้อ 3. เคยคิดว่า - ไขมันและแป้งวายร้ายสุขภาพ
แท้จริงนั้น - ไม่ใช่การกำจัด แต่สิ่งที่คุณควรทำคือจำกัดประเภทและปริมาณของคาร์โบไฮเดรตและไขมันอย่างเหมาะสมต่างหาก คาร์โบไฮเดรตและไขมันเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์และจำเป็นต่อร่างกาย คุณควรเลือกกินไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันมะกอก ถั่วเหลือง ปลาทะเล และแป้งที่ไม่ผ่านการขัดสีมากนัก เช่น ข้าวซ้อมมือ ถั่วแดง ส่วนเนื้อสัตว์ติดมันและแป้งคือวายร้ายที่มาทำลายสุขภาพในคราบความอร่อย

ข้อ 4. เคยคิดว่า - การออกกำลังกายอย่างหนักทำให้คุณร่างกายแข็งแรง
แท้จริงนั้น - การออกกำลังกายอย่างหักโหมเกินไปมีแต่จะทำให้ร่างกายคุณบอบช้ำ การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ถึงกับต้องทำทุกวัน อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 วันต่อสัปดาห์ เพียงวันละครึ่งชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว ที่เหลือก็ให้ร่างกายคุณได้ฟื้นฟูสภาพกล้ามเนื้อบ้าง

ข้อ 5. เคยคิดว่า - เงินซื้อสุขภาพดีได้
แท้จริงนั้น - ไม่จำเป็นต้องเสียเงินมากมายก็มีสุขภาพดีได้ คุณสามารถไปวิ่งหรือปั่นจักรยานที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน หรือจะเอาน้ำใส่ขวดแล้วยกแทนดัมเบลล์ก็ทำให้กล้ามใต้แขนกระชับได้เหมือนกัน คุณไม่จำเป็นต้องซื้อวิตามินมากินเลย เพียงแค่กินอาหารหลากหลายประเภทมากขึ้นเท่านั้น

ข้อ 6. เคยคิดว่า - ถ้าไม่ป่วย ไม่อ้วน ก็ไม่ต้องห่วงสุขภาพ
แท้จริงนั้น - สุขภาพดีไม่ใช่แค่การไม่อ้วนหรือไม่ป่วย คนผอมๆ บางคนก็คอเลสเตอรอลสูงกว่าคนอ้วน ๆ ได้ สุขภาพเป็นเรื่องของชีวิตคุณเอง อย่ารอจนไม่ไหว แล้วค่อยหันมาดูแลสุขภาพ

ข้อ 7. เคยคิดว่า - สุขภาพดูแลยาก
แท้จริงนั้น - การดูแลสุขภาพไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เราต้องใส่ใจชีวิตเพิ่มบ้างอีกนิด แค่ทำตามหลักการง่าย ๆ คือ กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอทำจิตใจให้แจ่มใส ลองเปลี่ยนชีวิตเพียงนิดเดียว คุณก็จะมีความสุขขึ้นเป็นกอง

สรรพคุณของ ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมลดน้ำหนัก Sye S(ซายเอส) -ดักจับไขมันในทางเดินอาหารได้มากถึง 800 เท่าของน้ำหนัก คิดเป็นประมาณ 34% ของไขมันที่รับประทานเข้าไป -สามารถขัดขวางการเปลี่ยนแปลงน้ำตาลกลูโคสเป็นไขมันสะสมตามอวัยวะของร่างกาย -ช่วยเร่งสลายไขมันเก่าที่สะสมอยู่โดยเฉพาะในคนอ้วน -ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และขับสารพิษในร่างกาย -ป้องกันสภาวะเสื่อมถอยของเซลล์ในร่างกาย -ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า และทำให้ผิวเต่งตึง -ควบคุมน้ำหนัก ขับไขมัน ไม่ให้สะสม -ลดความอยากอาหาร อิ่มเร็ว -เหมาะสำหรับคนดื้อยา ลดยาก -เป็นสารสกัดจากธรรมชาติไม่อันตราย ปลอดภัย มีอย. -รูปร่างกระชับ ได้สัดส่วน ไม่มีผลโยโย่ ไร้ผลข้างเคียง

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ลดน้ำหนัก Sye S ซายเอส

นวัตกรรมใหม่ของผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก ลดความอ้วน Sye S ซายเอส โดย เชียร์ ฑิฆัมพร

ที่มีความสามารถในการเผาผลาญไขมันในระดับที่่สูงมาก เร่งการเผาพลาญ

ทะลวงและขับไขมันออกมา เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ ด้วยนวัตกรรมจาก

สารสกัดทางธรรมชาติทั้ง 10 ชนิด 1ซอง เทียบเท่าอาหารเสริมลดน้ำหนักทั่วไปถึง 6แคปซูล

สั่งซื้ออาหารเสริมลดน้ำหนักซายเอส Sye-S ได้ที่ www.SyeS2u.com

หรือโทร.094-709-4444,089-071-8889

line id @jumbolifeshop

http://www.jumbolifeshop.com/product/375/%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81-sye-s-%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%AA-by-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%91%E0%B8%B4%E0%B8%86%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A3-2

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เคล็ดลับง่ายๆ วิธีกำจัดสิวหัวดำที่จมูก

วิธีกำจัดสิวหัวดำที่จมูก เคล็ดลับง่าย ๆ ที่เราเอามาฝากสาว ๆ ลองทำกันดูค่ะ

วิธีกำจัดสิวหัวดำที่จมูก เคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะกำจัดสิวหัวดำกวนใจให้จมูกของคุณสวยใสเนียนกิ๊กได้แบบไม่น่าเชื่อ มาลองทำกันดูเลยจ้า

สิวหัวดำ เป็นอีกหนึ่งปัญหาบนใบหน้าของสาว ๆ ที่มักจะขึ้นมาให้ปวดหัวและเป็นกังวลใจกันอยู่บ่อย ๆ แถมยังทำให้ผิวไม่เรียบเนียน ใครมองมาก็ต้องมาสะดุดอยู่ตรงนี้ทุกทีไป ทำเอาสาว ๆ หลายคนเสียความมั่นใจกันแบบสุด ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว เจ้าสิวหัวดำตัวปัญหานี้มักจะขึ้นอยู่ตามบริเวณจมูก แก้ม และคาง ซึ่งเกิดจากรูขุมขนเกิดการอุดตันเพราะไขมันรวมตัวกับเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว โดยรูขุมขนนั้นจะเชื่อมต่อกับต่อมไขมัน ซึ่งต่อมไขมันใต้ผิวหนังนี้จะทำหน้าที่ในการสร้างไขมันแล้วขับออกมาเพื่อให้ผิวหนังชุ่มชื้น ลื่น ไม่แห้ง ซึ่งหากผลิตออกมามากเกินความจำเป็นและรวมตัวกับเซลล์ผิวที่ตายแล้วก็จะก่อให้เกิดการรวมกันเป็นเม็ดและอุดตันบริเวณรูขุมขนจนทำให้เกิดสิวอักเสบที่เป็นหัวสีขาว ๆ ได้ แต่ถ้าเม็ดที่อุดตันนี้โผล่ขึ้นไปถึงผิวหนังด้านบนจะทำให้เกิดเป็นสิวหัวดำขึ้นได้นั่นเอง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วก็สามารถกำจัดออกไปได้หลายวิธี แต่วันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีกำจัดสิวหัวดำที่จมูกแบบง่าย ๆ มาฝากสาว ๆ กัน ลองมาทำกันดูเลยจ้า

วิธีกำจัดสิวหัวดำที่จมูก

เคล็ดลับในการกำจัดสิวหัวดำที่จมูก สาว ๆ สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการใช้ ปิโตรเลียมเจล หรือที่ใครหลายคนเรียกกันติดปากว่า วาสลีน มาทาลงบนจมูกให้หนา ๆ จากนั้นเอานิ้วมือทาวนรอบ ๆ บริเวณสิวหัวดำ เพื่ออุ่นเนื้อครีมให้ร้อนแล้วใช้ถุงพลาสติกใสแปะทับ แล้วเอาผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นมาปิดทับไว้ให้บริเวณนั้นมีความร้อนเพิ่มขึ้นเพื่อขยายรูขุมขน จากนั้นทิ้งไว้สักพัก แล้วค่อยเอาทิชชูเช็ดออก เพียงเท่านี้สิวหัวดำกวนใจก็จะหลุดออกมาอย่างง่ายดายเลยล่ะค่ะ

เห็นไหมล่ะคะว่าวิธีกำจัดสิวหัวดำนั้นสามารถทำได้เองง๊ายง่าย... หากสาว ๆ คนไหนที่มีปัญหาสิวหัวดำขึ้นมากวนใจก็สามารถใช้วิธีนี้กำจัดไปได้เลยค่ะ รับรองว่าได้ผลชัวร์ค่ะ คอนเฟิร์ม !

Colla Colla คอลลา คอลล่า 30ซอง คอลลาเจนไดเปปไทด์ กลูต้าคอมเพล็กซ์

Colla Colla !! คอลลา คอลล่า
คอลลาเจนไดเปปไทด์นวัตกรรมใหม่! นำเข้าจากญี่ปุ่น
สูตรจัดเต็มที่สุด แตกต่างจากคอลลาเจนที่คุณเคยลองมาทั้งหมด!
✓ คอลลาเจนไดเปปไทต์พรีเมี่ยมนำเข้าจากญี่ปุ่น 100%
✓ สูตรผิวสวย 15 ประการมากที่สุดในวงการ
✓ ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น ขาวออร่า กว่าเดิม 3 เท่า ด้วยกลูต้าไธโอน และ กลูต้าไธโอนคอมเพล็กซ์!
✓ ลดเลือนริ้วรอยก่อนวัยและจุดด่างดำ ด้วย Q10 สารสกัดจากเมล็ดองุ่น และ เปลือกสนฝรั่งเศส
✓ คุ้มค่ากว่าทุกแบรนด์ที่เคยลองมา!
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิ๊ก!!!
http://tinyurl.com/collacolla30
หรือ http://www.JumbolifeShop.com
โทร. 094-4350404 , 089-0718889
line id : JumbolifeShop

ลบรอยตีนกาด้วยน้ำใบบัวบก

ลบรอยตีนกาด้วยน้ำใบบัวบก (เดลินิวส์)

ใครทราบบ้างว่า น้ำใบบัวบกสามารถลบรอยตีนกาได้ วันนี้มีเรื่องนี้มาบอก...

วิธีคือ นำ ใบบัวบกที่ได้มาล้างให้สะอาด แล้วนำมาปั่น หรือจะบด จะโขลก ด้วยกรรมวิธีอะไรก็ได้ที่ถนัด เพราะสิ่งที่ต้องการ คือ น้ำใบบัวบก พอได้น้ำใบบัวบกสดๆ แล้ว ใช้สำลีชุบน้ำใบบัวบกมาทาให้ทั่วใบหน้า ทาทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออก ทาทุกวันก่อนนอน หรือจะหลับไปเลยก็ได้

น้ำใบบัวบกจะไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ซึ่งจะช่วยลบรอยตีนกาได้ แต่ที่สำคัญต้องทำสม่ำเสมอ ถึงจะเห็นผล

รู้อย่างนี้แล้ว ใครที่อยากลบรอยตีนกา ก็ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันได้

"พุงทะลาย"สมุนไพรพุงยุบ

"พุงทะลาย"สมุนไพรพุงยุบ

ลูกสำรอง หรือ พุงทะลาย

ลูกสำรอง หรือที่มีอีกชื่อหนึ่งว่า "พุงทะลาย" ซึ่งก็มีสรรพคุณในการลดความอ้วนได้เหมือนชื่อเลยล่ะ เพราะลูกสำรองเมื่อนำไปแช่น้ำก็จะเกิดการพองตัวและเมื่อรับประทานเข้าไปก็จะทำให้อิ่มและทานอาหารได้น้อยลง นอกจากนี้ยังช่วยกำจัดไขมันให้ออกมาจากร่างกาย ล้างไขมันที่อยู่ในลำไส้ ด้วยการดูดซับไขมันเอาไว้แล้วขับออกมาในรูปแบบของการขับถ่าย

แต่ก็มีข้อมูลทางเภสัชวิทยาพูดถึงการกินลูกสำรองติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ ก็อาจจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหาร โดยเฉพาะวิตามินและแร่ธาตุบางชนิดลดลงได้ ดังนั้นถ้าคิดจะใช้ลูกสำรองในการช่วยลดน้ำหนักล่ะก็ควรจะรับประทานให้พอเหมาะนะจ๊ะ

โกลด์เชพ เฟิร์มมิ่งครีม ลดไขมันส่วนเกิน และเซลลูไลท์
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิ๊ก!!!
http://tinyurl.com/goldshapecream
หรือ http://www.JumbolifeShop.com
โทร.094-4350404,089-0718889
line id : JumbolifeShop

http://www.jumbolifeshop.com/product/100/%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%9E-%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A1-%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B9%8C

ตัวอย่างผู้ใช้โลชั่นลดไขมัน

ผิวสวยด้วยผลไม้ ทำได้ง่ายๆ

ผิวสวย ด้วยผลไม้ สูตรพอกหน้าเพื่อผิวพรรณที่สดชื่น มาดูวิธีการกันเลย

ผิวสวยง่าย ๆ ด้วยผลไม้ (Woman Plus)

ผลไม้นอกจากจะทานเพื่อเสริมวิตามินให้ผิวของเราสวยสดใสแล้ว ยังสามารถนำมาเป็นสูตรพอกหน้าเพื่อให้ผิวพรรณเราสดชื่นได้อีกด้วยนะคะ งั้นไม่รอช้า เรามาดูวิธีการกันเลยดีกว่า !

กล้วย

กล้วยนั้นอุดมไปด้วยวิตามิน เอและซี ที่จะไปช่วยชดเชยน้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ ที่เราสูญเสียไปทุก ๆ วัน กล้วยจึงช่วยให้เรามีผิวพรรณดี ผิวหน้าจะสดใส กระชับ เต่งตึง ขึ้นได้

วิธีการ - นำกล้วยหอมประมาณครึ่งลูกมาบดให้ละเอียด แล้วผสมกับนมสดหรือน้ำผึ้งประมาณ 1 ช้อนชา พอกหน้าทิ้งไว้สัก 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

ฝรั่งสด

ฝรั่งสามารถช่วยกระตุ้นและทำความสะอาด ผิวหน้าได้ดีเยี่ยม นอกจากจะได้รสชาติที่อร่อยแล้ว ยังได้วิตามินซีไปช่วยดูแลร่างกายอีกด้วย และยังช่วยให้ใบหน้าที่เคยหมองคล้ำกลับมาผ่อนใสได้

วิธีการ - นำเนื้อฝรั่ง 1 ลูกมาปั่น แล้วเอาเฉพาะส่วนที่เป็นเนื้อมาพอกหน้าทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออก

มะม่วง (สุก)

วิตามินเอและซีในมะม่วง จะช่วยกำจัดเซลล์ที่ตายแล้วและทำให้ผิวหน้าคงสภาพความอ่อนเยาว์ ทำให้ผิวหน้าของคุณเกลี้ยงเกลา สะอาด ไร้รอยเหี่ยวย่น

วิธีการ - นำมะม่วงสุกมาฝานเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วใช้ช้อนยีให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นก็นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที ระหว่างนี้ห้ามขยับใบหน้า ห้ามยิ้ม ห้ามพูดโดยเด็ดขาด แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

มะละกอ

มะละกอจะช่วยป้องกันการ อักเสบ ช่วยกระตุ้นและละลายสิ่งสกปรกออกจากผิวหน้า ทำให้ใบหน้าสดใส และจุดด่างดำ ก็จะค่อยจางหายไป

วิธีการ - ให้นำมะละกอสุกมาบดให้ละเอียด แล้วพอกหน้าทิ้งไว้ 15-20 นาทีค่อยล้างออก

แตงโม

ความชุ่มชื้นของน้ำแตงโมจะช่วยปรับสภาพ ผิวหน้า หลังการตากแดดให้กลับมามีสภาพดีดังเดิมได้ แค่นี้ผิวพรรณของเราก็จะกลับมาสดชื่นและนุ่มนวลดังเดิม

วิธีการ - โดยการนำน้ำแตงโมงครึ่งถ้วยมาทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้สัก 20-30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นและตามด้วยน้ำเย็นอีกรอบ หรือจะนำเนื้อแตงโมมาฝานบาง ๆ ไปแช่เย็น แล้วเอามาวางให้ทั่วบนใบหน้าและลำคอ

น้ำส้ม

น้ำส้มมีวิตามินซีสูง จึงช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ไม่มัน ช่วยปรับสมดุล กระชับผิว ปราศจากผดผื่น ไม่ทำให้เกิด สิว และฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ดี และยังช่วยให้ใบหน้าเรียบเนียนได้

วิธีการ - นำน้ำส้มประมาณ 1/2 ถ้วยมาผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ แล้วทาหน้าทิ้งไว้ 20 นาทีก่อนล้างออก

วิธีการต่าง ๆ ที่ได้บอกไป ควรทำใช้ครั้งต่อครั้งนะคะ ไม่ควรจะทำทิ้งเอาไว้ เพราะจะทำให้สูญเสียคุณประโยชน์จากผลไม้ไป และการบำรุงทุกอย่างต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู ดังนั้นแค่หมั่นทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการป้องกันผิวหน้าจากความเสี่ยงต่าง ๆ ก็จะทำให้ผิวของคุณสวยสดใสอยู่เสมอค่ะ

วิธีลดความอ้วน ด้วยอาหาร 3 ประเภทที่กินแล้วไม่อ้วน

วิธีลดความอ้วนด้วยการออกกำลังกาย เป็นวิธีลดความอ้วนที่ได้ผลดีถ้าคุณมีเวลามากพอ และทำแบบสม่ำเสมอ แต่ถ้าคุณไม่มีเวลามากขนาดนั้นอาหารที่เราทานเข้าไปทุกวันก็สามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนัก ได้

วิธีลดความอ้วน ด้วยอาหาร 3 ประเภทที่กินแล้วไม่อ้วน

ซึ่งการออกกำลังกายนั้นเป็นการดูแลสุขภาพ ของคุณได้ดีทีเดียว แถมคุณเองก็จะแข็งแรงจากการออกกำลังกายอีกด้วย แต่ถ้าคุณไม่มีเวลาออกกำลังกายล่ะคุณจะทำยังไง วันนี้เรามีวิธีลดความอ้วนด้วยการทานอาหารมาฝากคุณสาวๆ กันค่ะ แต่ไม่ต้องแปลกใจว่าอาหารที่เรานั้นนำมาแนะนำจะเพิ่มน้ำหนักให้กับคุณ เพราะอาหารที่เราจะบอกเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ช่วยให้คุณลดน้ำหนัก ได้ดีเชียวล่ะค่ะ

อาหาร 3 ประเภทที่กินแล้วไม่อ้วนมี ดังนี้

1. อาหารประเภทต้ม แกงจืดตำลึงหมูสับ แกงจืดมะระสอดไส้ แกงจืดวุ้นเส้น ต้มเลือดหมู แกงเหลืองปักษ์ใต้ แกงเลียงผักรวม แกงส้ม แกงอ่อมปลา แกงแคไก่ แกงป่าไก่ ต้มยำกุ้งน้ำใส ต้มยำปลาช่อนน้ำใส ต้มยำปลาทู ต้มยำปลาหมึก ต้มยำไก่

2. อาหารประเภทยำ ส้มตำไทย ส้มตำไทยใส่ปู ส้มตำผลไม้ ยำตะไคร้ ยำมะม่วง ยำรวมมิตร ยำแมงกะพรุน ยำมะเขือยาว ยำวุ้นเส้น ยำเนื้อ ยำเป็ดย่าง ยำไข่ต้มทรงเครื่อง ลาบหมู ลาบปลา ลาบไก่ พล่ากุ้ง

3. อาหารประเภทนึ่ง เต้าหู้นึ่งทรงเครื่อง ปลากะพงนึ่งมะนาว ปลาช่อนจิ้มแจ่ว ปลานึ่งสมุนไพร ปลาทับทิมนึ่งบ๊วย ปลากะพงนึ่งบ๊วย

อาหารที่แนะนำมาทั้งหมดนี้ไม่ได้ช่วยให้น้ำหนักของคุณลดไปซะทีเดียว มันเป็นเพียงวิธีลดความอ้วนวิธีหนึ่งของประเภทอาหารที่ไม่ทำให้ไขมันส่วนเกินที่เราไม่ต้องการจะมารังควาญได้ต่างหาก ไม่ว่าอย่างไรการออกกำลังกายก็ยังคงเป็นวิธีลดความอ้วนที่ดีที่สุดและต้องไม่หักโหมเกิน

ทั้ง เผาผลาญไขมันเก่า และ บล็อคไขมันใหม่
ด้วยนวัตกรรมจาก สวิสเซอร์แลนด์ และ ฝรั่งเศส

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิ๊ก!!!
http://tinyurl.com/DiSSlimSet

หรือ http://www.JumbolifeShop.com

โทร. 094-4350404 , 089-0718889

line id : JumbolifeShop

วิธีทาครีม เรื่องง่ายๆ ที่ทุกคนต้องรู้ สู่ทางลัดผิวสวย

วิธีทาครีม เรื่องง่าย ๆ ที่ทุกคนต้องรู้ มาดูการทาครีมที่ถูกวิธีกันเลยจ้า

วิธีทาครีม เรื่องง่าย ๆ ที่สาว ๆ ทุกคนต้องรู้ เพราะการทาครีมที่ถูกวิธีจะช่วยทำให้ครีมสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะทำให้ผิวของเราสวยสุขภาพดีขึ้นได้อีกเท่าตัว

สาว ๆ เคยสังเกตบ้างไหมคะว่าเวลาที่คุณซื้อครีมราคาแพง ๆ หรือซื้อครีมที่มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวสวยมาใช้มากเท่าไรก็รู้สึกว่าเปล่าประโยชน์ เพราะทาเท่าไรก็ไม่สามารถที่จะบำรุงผิวของเราให้ขาวสวยขึ้นได้อย่างที่หวังไว้เสียที ทั้งนี้สิ่งหนึ่งที่ทำให้ครีมใช้ไม่ได้ผลเท่าที่ควร อาจจะมีสาเหตุมาจากตัวเราเองที่ทาครีมไม่ถูกวิธีค่ะ ทำให้ครีมราคาแพง ๆ คุณภาพดี ๆ ไม่สามารถบำรุงผิวของเราได้อย่างเต็มที่ หากเป็นอย่างนี้สาว ๆ คงรู้สึกเสียดายเงินแย่เลยใช่ไหมคะ แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะเรื่องนี้มีทางแก้ไขด้วยวิธีง่าย ๆ เพียงแค่สาว ๆ เปลี่ยนมาทาครีมให้ถูกวิธี แค่นี้ก็จะทำให้ผิวของคุณสวยเร็วขึ้นได้แล้วล่ะค่ะ

วิธีการทาครีมที่ถูกต้องและได้ผลดี

การทาครีมบนใบหน้า

ปริมาณครีมที่ใช้ทาบนใบหน้าแต่ละครั้งต้องให้พอเหมาะ ประมาณ 1 ข้อนิ้วต่อการทาครีมหนึ่งครั้ง เพราะถ้าหากน้อยเกินไปก็จะทำให้เห็นผลช้า หรือถ้ามากเกินไปก็จะทำให้หน้ามันได้ เมื่อบีบครีมลงบนฝ่ามือแล้วให้ใช้นิ้วแต้มครีมลงบริเวณใบหน้าทั้งหมด 5 จุด คือ หน้าผาก จมูก แก้มทั้งสองข้าง และคาง จากนั้นให้ใช้นิ้วนางและนิ้วกลางของทั้งมือซ้ายและขวาค่อย ๆ เกลี่ยเนื้อครีมออกเป็นวงกว้าง โดยมือซ้ายให้เกลี่ยครีมไปทางซ้ายและมือขวาให้เกลี่ยครีมไปทางขวา โดยเริ่มจาก แก้ม โหนกแก้ม ตามด้วยแนวสันจมูก ใต้โพรงจมูก คาง และหน้าผาก เว้นเฉพาะบริเวณรอบดวงตาเอาไว้ ซึ่งระหว่างทาครีมให้ลงน้ำหนักนิ้วให้เบาที่สุด เพราะผิวหน้านั้นบอบบางมากค่ะ หากลงน้ำหนักแรงเกินไป อาจทำให้หน้าของสาว ๆ เกิดรอยย่นก่อนวัยอันควรได้

การทาครีมบริเวณลำคอ

การทาครีมที่คอนั้นให้ใช้ปริมาณเนื้อครีมเท่ากับใบหน้า โดยเริ่มจากบริเวณฐานลําคอ โดยให้ใช้ปลายนิ้วทั้งหมดค่อย ๆ ลูบไล้เนื้อครีมขึ้นไปจากล่างขึ้นบน

การทาครีมบริเวณหน้าอกและลำตัว

บีบครีมลงบนฝ่ามือและใช้ปลายนิ้วลูบวน ๆ ให้ทั่วแผ่นอก จากนั้นค่อย ๆ ไล่ไปทาที่หน้าท้องและแผ่นหลัง

การทาครีมบริเวณแขน

ควรทาครีมที่บริเวณต้นแขนในส่วนของด้านท้องแขนก่อนเป็นอันดับแรก แล้วค่อย ๆ ทาวนขึ้นบริเวณหลังแขน โดยการใช้ปลายนิ้วค่อย ๆ ลูบไล้ เพื่อให้เนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิว

การทาครีมบริเวณขาและเท้า

ควรเริ่มต้นทาครีมจากบริเวณต้นขาก่อน แล้วค่อย ๆ ทาลงไปที่ปลายขา โดยให้เน้นบริเวณหน้าแข้งทั้งสองข้างเป็นพิเศษ เพราะบริเวณนี้ผิวค่อนข้างแห้งที่สุด ที่สำคัญสาว ๆ ไม่ควรลืมทาครีมที่บริเวณเท้าทั้งสองข้างด้วยนะคะ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะไม่ใส่ใจ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เท้าแห้งขาดความชุ่มชื้นจนทำให้เกิดตาตุ่มด้านและส้นเท้าแตกเอาได้

ได้คำแนะนำดี ๆ สำหรับวิธีการทาครีมที่ถูกต้องกันไปแล้ว ต่อไปนี้ถ้าใครจะซื้อครีมราคาถูกหรือแพงขนาดไหนมาใช้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์แล้วล่ะค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ต้องคำนึงไว้เสมอว่า ครีมบำรุงผิวจะใช้ได้ผลสูงสุดก็ต่อเมื่อทาครีมได้อย่างถูกวิธีเท่านั้น ถ้าคุณทำได้รับรองว่าผิวของคุณจะสวยเร็วขึ้นได้อย่างแน่นอนค่ะ

Colla Colla !! คอลลา คอลล่า
คอลลาเจนไดเปปไทด์นวัตกรรมใหม่! นำเข้าจากญี่ปุ่น
สูตรจัดเต็มที่สุด แตกต่างจากคอลลาเจนที่คุณเคยลองมาทั้งหมด!
✓ คอลลาเจนไดเปปไทต์พรีเมี่ยมนำเข้าจากญี่ปุ่น 100%
✓ สูตรผิวสวย 15 ประการมากที่สุดในวงการ
✓ ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น ขาวออร่า กว่าเดิม 3 เท่า ด้วยกลูต้าไธโอน และ สารตั้งต้นกลูต้าไธโอน
✓ ลดเลือนริ้วรอยก่อนวัยและจุดด่างดำ ด้วย Q10 สารสกัดจากเมล็ดองุ่น และ เปลือกสนฝรั่งเศส
✓ คุ้มค่ากว่าทุกแบรนด์ที่เคยลองมา!
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิ๊ก!!!
http://tinyurl.com/collacolla30
หรือ http://www.JumbolifeShop.com
โทร. 094-4350404 , 089-0718889
line id : JumbolifeShop

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เตรียมผิวพร้อมรับหน้าหนาว ด้วยหลายทริคสุดแจ๋ว

เตรียมผิวพร้อมรับหน้าหนาว ด้วยหลายทริคสุดแจ๋ว

ผิวสวยรับหน้าหนาวที่กำลังจะเข้า ด้วย 7 ทริคสุดแจ๋ว พิชิตผิวสวย

เผลอแป๊บเดียวก็กำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ซึ่งแน่นอนล่ะว่าพวกสกินแคร์บำรุงผิวและวิธีการบำรุงผิวก็ต้องถูกเซตใหม่หมด เพราะในฤดูหนาวนี้ผิวของสาว ๆ จะมีปัญหาแตกต่างจากฤดูกาลที่ผ่านมา อย่างผิวแห้งลอก ผิวแตก และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งคุณควรจะเตรียมผิวให้พร้อมรับมือกับหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึง ด้วย 7 ทริคสุดแจ๋วที่กระปุกดอทคอมได้นำมาฝากในวันนี้ค่ะ

นวดน้ำมัน

จะมีช่วงเวลาไหนที่เหมาะกับการนวดน้ำมันได้มากเท่ากับช่วงหน้าหนาวละ ถ้าอย่างนั้นสาว ๆ ก็ควรเตรียมน้ำมันนวดตัวไว้ให้พร้อมรับหน้าหนาวนี้ได้เลย โดยอาจจะนวดทุกวันหรือทำเมื่อมีเวลาก็ได้ โดยให้นวดแล้วทิ้งน้ำมันไว้บนตัวสัก 15 นาทีค่อยล้างออก วิธีนี้จะช่วยทำให้ผิวของคุณได้รับการบำรุง แถมกลิ่นหอมอโรมาของน้ำมันยังทำให้รู้สึกรีแล็กซ์ด้วย

ใช้แปรงขัดผิว

ก่อนจะถึงหน้าหนาวนี้ สาว ๆ น่าจะลงทุนซื้อแปรงขัดผิวที่ใช้ตอนอาบน้ำดี ๆ สักอันมาช่วยดูแลผิวในฤดูหนาวดูนะ โดยเวลาอาบน้ำให้คุณใช้แปรงขัดผิวถูตัวไปเรื่อย ๆ สักประมาณ 10 นาที เพื่อให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออกไปได้ดียิ่งขึ้น

ไม่อาบน้ำร้อน

รู้อยู่แล้วล่ะ ว่าสาว ๆ ชอบอาบน้ำร้อนกันในหน้าหนาว แต่การอาบน้ำร้อนจะยิ่งเป็นการทำร้ายผิวให้แห้งผากเข้าไปใหญ่ แถมยังทำให้ผิวดูหมองไม่สดใสอีกด้วย ฉะนั้นลองเปลี่ยนจากการอาบน้ำร้อนมาเป็นการอาบน้ำอุ่นจะดีกว่า ยิ่งตอนล้างหน้า ควรล้างด้วยน้ำที่ไม่ร้อนมากเกินไป ไม่อย่างนั้นผิวหน้าอาจจะแห้งลอกและแสบแดงได้

ใช้เบบี้ออยล์

สาว ๆ คนไหนที่มีผิวแห้งมากและจะแห้งมากเข้าอีกในช่วงหน้าหนาว ให้ซื้อเบบี้ออยล์เตรียมไว้บำรุงผิวกันได้เลย เพราะเบบี้ออยล์จะเป็นตัวช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นได้ดีสุด ๆ ในช่วงอากาศหนาวเลยล่ะ โดยหลังจากที่คุณอาบน้ำเสร็จแล้ว อย่าเพิ่งเช็ดตัวทันที ให้ชโลมเบบี้ออยล์ให้ทั่วร่างกายก่อน จากนั้นค่อยใช้ผ้าเช็ดตัวซับ ๆ ให้แห้ง เชื่อสิไม่ว่าจะอากาศหนาวแค่ไหน ผิวก็ยังจะชุ่มชื้นอยู่เสมอ

เตรียมสกินแคร์บำรุงส่วนแห้งง่าย

ไม่เพียงแค่ผิวหน้าและผิวกายเท่านั้นที่จะแห้งแตกในหน้าหนาว แต่ผิวส่วนเท้า หัวเข่า ข้อศอก และริมฝีปากก็ควรจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษในฤดูหนาวเช่นกัน ฉะนั้นคุณควรจะเลือกใช้โลชั่นเนื้อหนักขึ้นมาหน่อย โดยอาจจะใช้แบบบอดี้บัตเตอร์มาเน้นบำรุงตรงส่วนเท้า หัวเข่า และข้อศอกก็ได้ แล้วก็อย่าลืมเลือกลิปบาล์มดี ๆ บำรุงริมฝีากด้วยนะ

ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ตาม การดื่มน้ำให้เพียงพอก็ยังเป็นวิธีการบำรุงผิวที่เวิร์คสำหรับทุกซีซั่นเลย ยิ่งในช่วงหน้าหนาวผิวของคุณก็ยิ่งต้องการความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ ฉะนั้นคุณควรจะต้องดื่มน้ำสะอาด 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้คงอยู่ในผิวตลอดเวลา

ใช้ครีมกันแดด

อย่าเพิ่งคิดว่าหน้าหนาวอากาศหม่น ๆ ไม่มีแดดจ้าจะไม่จำเป็นต้องทาครีมกันแดดนะจ๊ะ เพราะในฤดูนี้ผิวของคุณก็สามารถโดนทำร้ายจากรังสียูวีจากแดดได้เหมือนกัน ฉะนั้นบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ดี ๆ เสร็จแล้ว ก็ลงกันแดดต่อตามปกติเลยจ้า

หากลองนำทริคดี ๆ เหล่านี้ไปใช้ดู รับรองได้ว่าผิวของคุณก็จะยังดูนุ่มเนียนน่าสัมผัสไม่ว่าอากาศจะหนาวแค่ไหนก็ตาม บอกเลยใคร ๆ ก็จะอิจฉาผิวของคุณแหง ๆ ล่ะ