วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2562

สาเหตุโรคเบาหวาน BIM100 ลดระดับน้ำตาลในเลือด





สาเหตุโรคเบาหวาน BIM100 ลดระดับน้ำตาลในเลือด

ข้อมูลเพิ่มเติมอาหารเสริม บิม100 BIM100 สูตรไดอาบีน๊อกซ์ สีฟ้า

โทร 089-071-8889, 094-709-4444

https://www.jumbolifeshop.com/p/22

Line ID : @jumbolife ((อย่าลืมใส่ @ ด้วยนะค่ะ))

หรือคลิกลิงค์ http://line.me/ti/p/%40jumbolife



โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพหลายระบบ ทั้ง ฟันและเหงือก ตา ไต หัวใจ สมอง และหลอดเลือดแดง รวมทั้งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต,เศรษฐสังคม(socioeconomic effect) โดยมีการคาดการจาก International diabetes Federationว่าจะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 366 ล้านคน ในปีค.ศ.2011 เป็น 552 ล้านคน ในปีค.ศ. 2030 สำหรับประเทศไทย พบผู้ป่วยเบาหวาน 3.5 ล้านคนและมีมูลค่าการรักษา 47,596 ล้านบาทต่อปี



ดังนั้นทุกคนควรดูแลและป้องกันโรคเบาหวานด้วยการปรับพฤติกรรมการบริโภคและออกกำลังกาย



ในกรณีที่เป็นโรคเบาหวาน การให้ความร่วมมือในการรักษาและติดตามการรักษากับแพทย์เป็นสิ่งสำคัญในการดูแล รักษาโรคเบาหวาน เพื่อที่จะได้ลดภาวะแทรกซ้อนและอยู่กับโรคเบาหวานได้อย่างมีความสุข



โรคเบาหวานคืออะไร

เป็นกลุ่มโรคเกี่ยวกับการเผาผลาญอาหารซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน เนื่องจากขาดฮอร์โมนอินซูลิน หรือประสิทธิภาพของอินซูลินลดลง ซึ่งมีผลต่อการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย



ฮอร์โมนอินซูลินมีความสำคัญต่อร่างกายอย่างไร

อินซูลินเป็นฮอร์โมนสำคัญตัวหนึ่งของร่างกาย เพราะร่างกายคนเรานั้นรับประมานอาหารเข้าไปทุกวัน มีการเปลี่ยนแป้ง , โปรตีนให้เป็นน้ำตาล หากไม่มีอินซูลิน ก็จะส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ และยังทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเช่นกัน อีกทั้งยังทำให้เกิดโรคเบาหวานได้ อินซูลินสร้างและหลั่งจากเบต้าเซลล์ของตับอ่อน ทำหน้าที่เป็นตัวพาน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกาย เพื่อเผาผลาญเป็นพลังงานในการดำเนินชีวิต



อาการของโรคเบาหวาน



โรคเบาหวานในระยะแรกจะไม่แสดงอาการผิดปกติ บางรายอาจตรวจพบโรคเบาหวานเมื่อพบภาวะแทรกซ้อนขึ้นแล้ว อาการของโรคเบาหวานแต่ละชนิดอาจมีความคล้ายกัน ซึ่งอาการที่พบส่วนใหญ่ คือ กระหายน้ำมาก ปากแห้ง ปัสสาวะบ่อย หิวบ่อย น้ำหนักลดหรือเพิ่มผิดปกติ สายตาพร่ามัว เห็นภาพไม่ชัด รู้สึกเหนื่อยง่าย  มีอาการชาโดยเฉพาะมือและขา บาดแผลหายยาก เป็นต้น ทั้งนี้ อาการของโรคเบาหวานประเภทที่ 1 จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่โรคเบาหวานประเภทที่ 2 จะแสดงอาการแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วนโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์มักเกิดขึ้นในช่วงอายุครรภ์ประมาณ 24-28 สัปดาห์



สาเหตุของโรคเบาหวาน



โรคเบาหวานมีหลายประเภท สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ เบาหวานประเภทที่ 1 (Type 1 Diabetes) เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ เบาหวานประเภทที่ 2 (Type 2 Diabetes) เกิดจากการที่ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่เพียงพอต่อการใช้ หรือเกิดภาวะการดื้ออินซูลิน (Insulin Resistance) และเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational Diabetes) ซึ่งเป็นโรคเบาหวานที่พัฒนาขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์จากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน โดยที่ผู้ป่วยไม่เคยเป็นโรคเบาหวานมาก่อน



นอกจากโรคเบาหวานทั้ง 3 ประเภทแล้วยังมีโรคเบาหวานที่พบได้ไม่บ่อยอย่างโรคเบาหวานที่เกิดจากกรรมพันธุ์หรือแบบโมโนเจนิก (Monogenic Diabetes) อีกทั้งยังมีโรคเบาหวานจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น การใช้ยา หรือเกิดจากโรคชนิดอื่นอย่างโรคซิสติก ไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis) ด้วย

บิม100 น้ำมังคุด อาการโรคเบาหวาน





บิม100 น้ำมังคุด อาการโรคเบาหวาน

ข้อมูลเพิ่มเติมอาหารเสริม บิม100 BIM100 สูตรไดอาบีน๊อกซ์ สีฟ้า

โทร 089-071-8889, 094-709-4444

https://www.jumbolifeshop.com/p/22

Line ID : @jumbolife ((อย่าลืมใส่ @ ด้วยนะค่ะ))

หรือคลิกลิงค์ http://line.me/ti/p/%40jumbolife



อาการของโรคเบาหวาน



โรคเบาหวานในระยะแรกจะไม่แสดงอาการผิดปกติ บางรายอาจตรวจพบโรคเบาหวานเมื่อพบภาวะแทรกซ้อนขึ้นแล้ว อาการของโรคเบาหวานแต่ละชนิดอาจมีความคล้ายกัน ซึ่งอาการที่พบส่วนใหญ่ คือ กระหายน้ำมาก ปากแห้ง ปัสสาวะบ่อย หิวบ่อย น้ำหนักลดหรือเพิ่มผิดปกติ สายตาพร่ามัว เห็นภาพไม่ชัด รู้สึกเหนื่อยง่าย  มีอาการชาโดยเฉพาะมือและขา บาดแผลหายยาก เป็นต้น ทั้งนี้ อาการของโรคเบาหวานประเภทที่ 1 จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่โรคเบาหวานประเภทที่ 2 จะแสดงอาการแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วนโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์มักเกิดขึ้นในช่วงอายุครรภ์ประมาณ 24-28 สัปดาห์



สาเหตุของโรคเบาหวาน


โรคเบาหวานมีหลายประเภท สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ เบาหวานประเภทที่ 1 (Type 1 Diabetes) เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ เบาหวานประเภทที่ 2 (Type 2 Diabetes) เกิดจากการที่ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่เพียงพอต่อการใช้ หรือเกิดภาวะการดื้ออินซูลิน (Insulin Resistance) และเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational Diabetes) ซึ่งเป็นโรคเบาหวานที่พัฒนาขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์จากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน โดยที่ผู้ป่วยไม่เคยเป็นโรคเบาหวานมาก่อน



นอกจากโรคเบาหวานทั้ง 3 ประเภทแล้วยังมีโรคเบาหวานที่พบได้ไม่บ่อยอย่างโรคเบาหวานที่เกิดจากกรรมพันธุ์หรือแบบโมโนเจนิก (Monogenic Diabetes) อีกทั้งยังมีโรคเบาหวานจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น การใช้ยา หรือเกิดจากโรคชนิดอื่นอย่างโรคซิสติก ไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis) ด้วย


ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน



โรคเบาหวานเป็นโรคที่ส่งผลให้ผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากกว่าปกติ หากไม่มีการควบคุมในเรื่องของการรับประทานอาหารและดูแลรักษาสุขภาพอย่างถูกวิธี ปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเป็นเวลานาน จะส่งผลต่อเส้นเลือดที่นำสารอาหารไปเลี้ยงอวัยวะในร่างกายจนนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ทั้งโรคแทรกซ้อนชนิดที่เกิดกับเส้นเลือดขนาดเล็ก เช่น เบาหวานขึ้นตา โรคไต เป็นต้น หรือโรคแทรกซ้อนชนิดที่เกิดกับเส้นเลือดขนาดใหญ่ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเส้นเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน เป็นต้น รวมไปถึงโรคแทรกซ้อนที่ระบบประสาทและที่สามารถทำให้ผู้ป่วยต้องสูญเสียอวัยะบางส่วน นอกจากนี้สตรีมีครรภ์ที่เป็นโรคเบาหวานจะเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะครรภ์เป็นพิษ การแท้งบุตรได้



การป้องกันโรคเบาหวาน



สิ่งสำคัญของการป้องกันโรคเบาหวานทุกชนิด คือ ต้องคอยหมั่นระวังระดับน้ำตาลในเลือดและคอเลสเตอรอลให้อยู่เกณฑ์ปกติ เน้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสารอาหารครบถ้วน มีกากใยสูง หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ รวมถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หากเป็นสตรีมีครรภ์ควรเข้ารับการฝากครรภ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ พบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ และได้รับการตรวจคัดกรองเบาหวานหากมีความเสี่ยง เพื่อสามารถตรวจพบโรคเบาหวานได้ในระหว่างการตั้งครรภ์


BIM100 น้ำมังคุด ดูแลสุขภาพโรคเบาหวาน





BIM100 น้ำมังคุด ดูแลสุขภาพโรคเบาหวาน

ข้อมูลเพิ่มเติมอาหารเสริม บิม100 BIM100 สูตรไดอาบีน๊อกซ์ สีฟ้า

โทร 089-071-8889, 094-709-4444

https://www.jumbolifeshop.com/p/22

Line ID : @jumbolife ((อย่าลืมใส่ @ ด้วยนะค่ะ))

หรือคลิกลิงค์ http://line.me/ti/p/%40jumbolife



โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus: DM) เป็นภาวะที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) หรือการดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ส่งผลให้กระบวนการดูดซึมน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงานของเซลล์ในร่างกายมีความผิดปกติหรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จนเกิดน้ำตาลสะสมในเลือดปริมาณมาก หากปล่อยให้ร่างกายอยู่ในสภาวะนี้เป็นเวลานานจะทำให้อวัยวะต่าง ๆ เสื่อม เกิดโรคและอาการแทรกซ้อนขึ้น



จากข้อมูลของสหพันธ์เบาหวานนานาชาติ (International Diabetes Federation: IDF) พบผู้ป่วยโรคเบาหวานทั่วโลกราว 425 ล้านคนในปี 2560 และคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคนี้มากถึง 629 ล้านคนในปี 2588 สำหรับสถานการณ์โรคเบาหวานในประเทศไทยพบว่า คนไทยช่วงอายุ 20-79 ปี เป็นโรคเบาหวานร้อยละ 8.3 หรือหมายความว่าใน 100 คน จะพบคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานประมาณ 8 คน และจำนวนมากกว่าครึ่งไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคเบาหวาน สถิติการพบผู้ป่วยด้วยโรคนี้ยังมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ต้องมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องถึงภัยร้ายของโรค เพราะเป็นโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หายขาด มีโอกาสเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนลุกลามใหญ่โตจนต้องสูญเสียอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย ทางสหพันธ์เบาหวานนานาชาติ และองค์การอนามัยโลก (WHO) จึงได้กำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปีเป็นวันเบาหวานโลก เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของโรคนี้



ในปัจจุบัน ประเทศไทยยึดหลักเกณฑ์ตามสมาคมเบาหวานแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาในการจำแนกผู้ป่วยโรคเบาหวานด้วยการตรวจปริมาณน้ำตาลในเลือด หากผลการตรวจหลังงดอาหารและเครื่องดื่มมีน้ำตาลอยู่กระแสเลือดไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร แสดงว่าระดับน้ำตาลในเลือดปกติ ทั้งนี้ระดับน้ำตาลในเลือดยังบ่งบอกถึงภาวะเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานได้ด้วย (Prediabetes) ซึ่งผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อภาวะเป็นเบาหวานสามารถพัฒนาการเกิดโรคเบาหวานประเภทที่ 2 (เบาหวานที่เกิดจากการที่ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่เพียงพอต่อการใช้) โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดในสมองในอนาคตได้ง่ายขึ้น



อาการของโรคเบาหวาน



โรคเบาหวานในระยะแรกจะไม่แสดงอาการผิดปกติ บางรายอาจตรวจพบโรคเบาหวานเมื่อพบภาวะแทรกซ้อนขึ้นแล้ว อาการของโรคเบาหวานแต่ละชนิดอาจมีความคล้ายกัน ซึ่งอาการที่พบส่วนใหญ่ คือ กระหายน้ำมาก ปากแห้ง ปัสสาวะบ่อย หิวบ่อย น้ำหนักลดหรือเพิ่มผิดปกติ สายตาพร่ามัว เห็นภาพไม่ชัด รู้สึกเหนื่อยง่าย  มีอาการชาโดยเฉพาะมือและขา บาดแผลหายยาก เป็นต้น ทั้งนี้ อาการของโรคเบาหวานประเภทที่ 1 จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่โรคเบาหวานประเภทที่ 2 จะแสดงอาการแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วนโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์มักเกิดขึ้นในช่วงอายุครรภ์ประมาณ 24-28 สัปดาห์

สาเหตุข้อเข่าอักเสบ บิม100 น้ำมังคุด โรคข้อเข่าเสื่อม





สาเหตุข้อเข่าอักเสบ บิม100 น้ำมังคุด โรคข้อเข่าเสื่อม

สอบถามเพิ่มเติม

https://www.bim100foryou.com/

โทร 094-709-4444 ,  089-071-8889,

        094-435-0404 , 088-826-4444

ไลน์:  @jumbolife หรือคลิกลิ้งค์  https://line.me/R/ti/p/%40jumbolife



สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง



สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคข้อเสื่อม เกิดจากการใช้งานขอเข่าอย่างหนักและต่อเนื่อง จนทำให้กระดูกอ่อนข้อเข่าเสื่อมหรือ แตกกร่อน จนข้อเสียดสีกันและเกิดการอักเสบ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้นมีดังนี้



1. อายุที่มากขึ้น ข้อเข่าเสื่อมตามวัย

2. น้ำหนักตัว ผู้สูงอายุที่น้ำหนักตัวมาก ข้อจะรองรับน้ำหนักมาก ทำให้ข้อเสื่อมได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะข้อหลักๆ ที่รองรับน้ำหนักตัว คือ ข้อเข่า ข้อหลัง ข้อสะโพก

3. การเคลื่อนไหว หรือ ปรับเปลี่ยนท่าที่ไม่ถูกต้อง จะทำให้ข้อเข่า รวมถึงข้อต่างๆ ทำงานหนักขึ้น เช่น การนั่งยองๆ กับพื้นนานๆ การผลุดลุกนั่งบ่อยๆ  การยืนที่ทิ้งน้ำหนักตัวลงขาข้างใดข้างหนึ่งนานๆ รวมถึงการยกของหนักที่ส่งผลโดยตรงต่อข้อต่อ

4. การสูญเสียกล้ามเนื้อ จะทำให้ข้อต่อต่างๆ ใช้แรงในการเคลื่อนไหวมากขึ้น เพราะโดยปกติการเคลื่อนไหวร่างกายจะใช้แรงจาก การทำงานของกล้ามเนื้อร่วมกับกระดูกและข้อ ดังนั้น คนที่ไม่ออกกำลังกาย หรือ ผู้สูงอายุที่ขาดสารอาหารจะเริ่มเกิดการสลายโปรตีนในร่างกายและสูญเสียกล้ามเนื้อ ส่งผลให้กระดูกและข้อต่อต่างๆ ทำงานหนักขึ้น จนเป็นโรคข้อเสื่อมในที่สุด

5. การรับประทานอาหารและยา ที่มีผลต่อข้อเข่าเสื่อม เช่น การรับประทานอาหารที่มีคอลลาเจนและแคลเซียมจะช่วยบำรุงกระดูกและข้อ หากขาดสารอาหารจำเป็นเหล่านี้ โอกาสที่ข้อต่อต่างๆ จะเสื่อมเร็วขึ้น



โรคข้อเข่าเสื่อม เกิดจากกระดูกอ่อน ที่ทำหน้าที่ในการปกป้องและเป็นตัวรับแรงกระแทกในข้อเข่า มีการสึกหรอและเสื่อมสภาพลง



เมื่อใดก็ตามที่กระดูกอ่อนเกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้างจะส่งผลให้กระดูกในข้อเข่าจะเสียดสีกันเอง ทำให้เกิดการอักเสบและมีอาการปวด



ทั้งนี้ ข้อเข่าเสื่อมเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง เช่น กระดูกอ่อนผิวข้อบางลง และ ผิวไม่เรียบ มีกระดูกงอกบริเวณขอบๆ ข้อ และเกิดการสูญเสียคุณสมบัติของน้ำไขข้อมากขึ้น แต่ความยืดหยุ่นลดลง



อาการและอาการแสดงของโรคข้อเข้าเสื่อม



อาการและอาการแสดงของผู้ที่มีภาวะข้อเข้าเริ่มเสื่อม แบ่งได้เป็น 3 ลักษณะดังนี้



1. อาการปวด บวม ที่ข้อเข่า  ได้แก่ อาการปวดบริเวณข้อเข่าขณะเดิน หรือขณะเดินขึ้นลงบันได บางท่านอาจมีอาการปวดตอนกลางคืนในขณะที่นอน หรือ ปวดขณะที่นั่งพักได้ หรือมีอาการปวดมากขึ้นเมื่อยืนลงน้ำหนักนานๆ ในรายที่มีการอักเสบของข้อเข่าจะมีอาการข้อเข่าบวมเป็นๆ หายๆ



2. อาการข้อฝืด หรือ ตึงข้อขณะเคลื่อนไหว เช่นมีอาการหลังตื่นนอน ไม่สามารถขยับข้อเข้าได้ตามปกติ หรือ มีอาการขณะเปลี่ยนท่าเช่น ปวดเข่าเมื่อลุกขึ้นยืน หรือ เดิน รู้สึกเหมือนข้อเข่าติดขยับลำบาก มีอาการตึงๆ ข้อเข่า



ปัญหากวนใจของหลายคน ถ้ารักษาอย่างถูกวิธีก็มีโอกาสหาย ใบหน้ากระจ่างใส!

แพ็คเกจรักษาสิวเริ่มต้น 400 บาท ลดสูงสุด 50%



3. ความสามารถในการใช้งานข้อเข่าลดลง เช่น  ไม่สามารถเดินขึ้นลงบันไดได้ ขึ้นลงรถลำบาก การยกขาสวมใส่กางเกงลำบาก ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้คล่องแคล่วตามเดิม

ปัญหาข้อเข่าอักเสบ BIM100 น้ำมังคุดช่วยโรคข้อเข่าเสื่อม





ปัญหาข้อเข่าอักเสบ BIM100 น้ำมังคุดช่วยโรคข้อเข่าเสื่อม

สอบถามเพิ่มเติม

https://www.bim100foryou.com/

โทร 094-709-4444 ,  089-071-8889,

        094-435-0404 , 088-826-4444

ไลน์:  @jumbolife หรือคลิกลิ้งค์  https://line.me/R/ti/p/%40jumbolife



โรคข้อเข่าเสื่อม เกิดจากกระดูกอ่อน ที่ทำหน้าที่ในการปกป้องและเป็นตัวรับแรงกระแทกในข้อเข่า มีการสึกหรอและเสื่อมสภาพลง



เมื่อใดก็ตามที่กระดูกอ่อนเกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้างจะส่งผลให้กระดูกในข้อเข่าจะเสียดสีกันเอง ทำให้เกิดการอักเสบและมีอาการปวด



ทั้งนี้ ข้อเข่าเสื่อมเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง เช่น กระดูกอ่อนผิวข้อบางลง และ ผิวไม่เรียบ มีกระดูกงอกบริเวณขอบๆ ข้อ และเกิดการสูญเสียคุณสมบัติของน้ำไขข้อมากขึ้น แต่ความยืดหยุ่นลดลง



 7 ปัจจัยเสี่ยงของโรคข้อเข่าเสื่อม

1.  พันธุกรรม : และความผิดปกติแต่กำเนิดบางชนิด เช่น ขา หรือเข่าผิดรูป

2. อายุ : เมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการซ่อมแซมตัวเองของกระดูกอ่อนก็ลดลง

3. เพศ : นอกจากนี้ ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป จะมีแนวโน้มของการเกิดข้อเข่าเสื่อมได้มากกว่าผู้ชายที่อายุเท่ากัน

4. น้ำหนักตัวมาก : BMI มากกว่า 23 กก./ม.2 (สูตรการหาค่า BMI ทำได้โดย เอาน้ำหนักตัว [หน่วยเป็นกิโลกรัม] หารด้วย ส่วนสูง [หน่วยเป็นเมตร] ยกกำลัง 2 )

5. เคยบาดเจ็บมาก่อน : มีประวัติการบาดเจ็บที่ข้อเข่า ซึ่งส่งผลให้มีโอกาสเกิดข้อเข่าเสื่อมได้สูง โดยอาจเป็นผลจาก

– การบาดเจ็บ แม้ร่างกายจะมีการซ่อมแซมตัวเองหลังการบาดเจ็บ โครงสร้างข้อเข่าก็อาจไม่แข็งแรงเหมือนเดิม

– ได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้อง

6. ใช้งานหนักเกินไป : ใช้ใช้ข้อเข่าหักโหมซ้ำๆ หรือท่าทางที่ต้องงอเข่ามากเกินไป เช่น การคุกเข่า หรือนั่งยองๆ ทำให้เข่าต้องรับแรงกดสูงกว่าปกติเป็นเวลานาน หรือบ่อยครั้ง

7. โรคไขข้ออักเสบ : เช่น รูมาตอยด์ เกาต์ ส่งผลให้กระดูกอ่อนถูกทำลายจนกระทั่งหมดไป ทำให้เกิดอาการปวดและข้อติดแข็งตามมา




โรคข้อเข่าเสื่อม เกิดจากกระดูกอ่อน ที่ทำหน้าที่ในการปกป้องและเป็นตัวรับแรงกระแทกในข้อเข่า มีการสึกหรอและเสื่อมสภาพลง



เมื่อใดก็ตามที่กระดูกอ่อนเกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้างจะส่งผลให้กระดูกในข้อเข่าจะเสียดสีกันเอง ทำให้เกิดการอักเสบและมีอาการปวด



ทั้งนี้ ข้อเข่าเสื่อมเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง เช่น กระดูกอ่อนผิวข้อบางลง และ ผิวไม่เรียบ มีกระดูกงอกบริเวณขอบๆ ข้อ และเกิดการสูญเสียคุณสมบัติของน้ำไขข้อมากขึ้น แต่ความยืดหยุ่นลดลง




7 ปัจจัยเสี่ยงของโรคข้อเข่าเสื่อม

1. พันธุกรรม : และความผิดปกติแต่กำเนิดบางชนิด เช่น ขา หรือเข่าผิดรูป



2. อายุ : เมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการซ่อมแซมตัวเองของกระดูกอ่อนก็ลดลง



3. เพศ : นอกจากนี้ ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป จะมีแนวโน้มของการเกิดข้อเข่าเสื่อมได้มากกว่าผู้ชายที่อายุเท่ากัน



4. น้ำหนักตัวมาก : BMI มากกว่า 23 กก./ม.2 (สูตรการหาค่า BMI ทำได้โดย เอาน้ำหนักตัว [หน่วยเป็นกิโลกรัม] หารด้วย ส่วนสูง [หน่วยเป็นเมตร] ยกกำลัง 2 )



5. เคยบาดเจ็บมาก่อน : มีประวัติการบาดเจ็บที่ข้อเข่า ซึ่งส่งผลให้มีโอกาสเกิดข้อเข่าเสื่อมได้สูง โดยอาจเป็นผลจาก



– การบาดเจ็บ แม้ร่างกายจะมีการซ่อมแซมตัวเองหลังการบาดเจ็บ โครงสร้างข้อเข่าก็อาจไม่แข็งแรงเหมือนเดิม



– ได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้อง



6. ใช้งานหนักเกินไป : ใช้ใช้ข้อเข่าหักโหมซ้ำๆ หรือท่าทางที่ต้องงอเข่ามากเกินไป เช่น การคุกเข่า หรือนั่งยองๆ ทำให้เข่าต้องรับแรงกดสูงกว่าปกติเป็นเวลานาน หรือบ่อยครั้ง



7. โรคไขข้ออักเสบ : เช่น รูมาตอยด์ เกาต์ ส่งผลให้กระดูกอ่อนถูกทำลายจนกระทั่งหมดไป ทำให้เกิดอาการปวดและข้อติดแข็งตามมา







อาการแสดงของโรคข้อเข่าเสื่อม



ในบางรายอาจพบอาการเพียงอาการเดียว หรือ หลายอาการพร้อมกันก็ได้ ในระยะแรกมักจะเป็นไม่มาก และเป็นๆ หายๆ แต่เมื่อข้อเสื่อมมากขึ้น ก็จะมีอาการบ่อยมากขึ้น หรือ เป็นตลอดเวลา ดังนี้

-ปวดข้อเข่า รู้สึกเมื่อย ตึงที่น่อง และข้อพับเข่า

-ผิวหนังบริเวณข้ออุ่น หรือร้อนขึ้น

-ข้อขัด ข้อฝืด เหยียด-งอเข่าได้ไม่สุด

-มีเสียงดังในข้อเวลาขยับข้อเข่า จากการเสียดสีกันของผิวข้อที่ไม่เรียบ

-ข้อเข่าบวม เพราะน้ำไขข้อมากขึ้นจากการอักเสบ

-มีก้อนถุงน้ำในข้อพับเข่า จากเยื่อบุข้อเข่าแตกออกมา

-เข่าคดเข้า เข่าโก่งออก

-มีกระดูกงอก ทำให้ข้อผิดรูปร่าง

BIM100 น้ำมังคุด สาเหตุโรคข้อเข่าเสื่อม





BIM100 น้ำมังคุด สาเหตุโรคข้อเข่าเสื่อม

สอบถามเพิ่มเติม

https://www.bim100foryou.com/

โทร 094-709-4444 ,  089-071-8889,

        094-435-0404 , 088-826-4444

ไลน์:  @jumbolife หรือคลิกลิ้งค์  https://line.me/R/ti/p/%40jumbolife



โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อยในผู้สูงอายุที่มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุอย่างมาก เพราะนอกจากจะต้องทุกข์ทรมานจากอาการปวด บวม และอักเสบของเข่าแล้ว ยังทำให้มีอาการปวดและเจ็บข้อขณะเคลื่อนไหวได้ จนทำให้ผู้ที่ป่วยด้วยโรคข้อเข่าเสื่อมไม่อยากจะเคลื่อนไหวข้อ จนส่งผลให้ข้อติดหรือข้อผิดรูปไปในที่สุด การมีความรู้และความเข้าใจเรื่องโรคข้อเสื่อมจึงเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญดังนี้



โรคข้อเข่าเสื่อมคืออะไร



โรคข้อเข่าเสื่อม คือ โรคที่เกิดจากกระดูกอ่อนของข้อเข่า หรือ ผิวข้อสึกกร่อน เป็นผลให้ข้อต่อเสียดสีกันจนเกิดการอักเสบ ปวด บวม



โดยปกติแล้ว กระดูกอ่อนที่ฉาบผิวข้อต่อ มีหน้าที่ในการป้องกันการเสียดสีกันของกระดูกข้อเมื่อเคลื่อนไหว เช่น การเดิน การลุกนั่ง การยืน การเคลื่อนไหวเหล่านี้ข้อต่อจะทำงานประสานกันอย่างต่อเนื่อง เมื่อกระดูกอ่อนที่ข้อต่อผุผังหรือบางลง กระดูกข้อต่อก็จะเสียดสีกันจนเกิดการอักเสบ  ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการดังนี้



อาการและอาการแสดงของโรคข้อเข้าเสื่อม



อาการและอาการแสดงของผู้ที่มีภาวะข้อเข้าเริ่มเสื่อม แบ่งได้เป็น 3 ลักษณะดังนี้



1. อาการปวด บวม ที่ข้อเข่า  ได้แก่ อาการปวดบริเวณข้อเข่าขณะเดิน หรือขณะเดินขึ้นลงบันได บางท่านอาจมีอาการปวดตอนกลางคืนในขณะที่นอน หรือ ปวดขณะที่นั่งพักได้ หรือมีอาการปวดมากขึ้นเมื่อยืนลงน้ำหนักนานๆ ในรายที่มีการอักเสบของข้อเข่าจะมีอาการข้อเข่าบวมเป็นๆ หายๆ



2. อาการข้อฝืด หรือ ตึงข้อขณะเคลื่อนไหว เช่นมีอาการหลังตื่นนอน ไม่สามารถขยับข้อเข้าได้ตามปกติ หรือ มีอาการขณะเปลี่ยนท่าเช่น ปวดเข่าเมื่อลุกขึ้นยืน หรือ เดิน รู้สึกเหมือนข้อเข่าติดขยับลำบาก มีอาการตึงๆ ข้อเข่า



3. ความสามารถในการใช้งานข้อเข่าลดลง เช่น  ไม่สามารถเดินขึ้นลงบันไดได้ ขึ้นลงรถลำบาก การยกขาสวมใส่กางเกงลำบาก ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้คล่องแคล่วตามเดิม



อาการดังกล่าวสามารถพบได้ในผู้ที่มีปัญหาข้อเข่าเสื่อม หากปล่อยไว้นาน จะเกิดภาวะแทรกซ้อน คือ ข้อเข่าผิดรูป เช่น ขาโก่งจากข้อเข่าเสื่อมได้

วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2562

อาการปวดเข่า บิม100 น้ำมังคุด ช่วยโรคข้อเข่าเสื่อม





อาการปวดเข่า บิม100 น้ำมังคุด ช่วยโรคข้อเข่าเสื่อม

สอบถามเพิ่มเติม

https://www.bim100foryou.com/

โทร 094-709-4444 ,  089-071-8889,

        094-435-0404 , 088-826-4444

ไลน์:  @jumbolife หรือคลิกลิ้งค์  https://line.me/R/ti/p/%40jumbolife



อาการเข่าเสื่อม



เมื่อต้องเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมบางอย่าง จะทำให้มีอาการเจ็บปวดและรู้สึกฝืดที่ข้อเข่า ทำให้เคลื่อนไหวได้ไม่สะดวก รวมไปถึงเมื่อไม่ได้เคลื่อนไหวนาน ๆ ก็อาจทำให้เจ็บปวดและรู้สึกฝืดขัดที่ข้อเข้าได้เช่นกัน อาการอื่น ๆ ของเข่าเสื่อม ได้แก่



-เมื่อต้องเคลื่อนไหวจะมีเสียงเสียงลั่นในข้อ

-มีอาการกดเจ็บ

-เข่าอ่อนแรงและเสียมวลกล้ามเนื้อ

-ข้อเข่าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เต็มที่ เสียความยืดหยุ่น ข้อติดหรือขยับได้ยาก มักจะเกิดขึ้นเวลาเช้าหรือต้องนั่งเป็นเวลานาน ทำให้เกิดความยากลำบากเวลาเดิน ขึ้นบันได หรือลุกจากเก้าอี้



ผู้ที่มีอาการสำคัญของเข่าเสื่อม เช่น อาการเจ็บปวด ข้อเข่าฝืด รวมไปถึงอาการที่กล่าวไปข้างต้น หากมีอาการติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาและหาทางรักษา เพราะหากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้อาการมีความรุนเแรงยิ่งขึ้น


สาเหตุของเข่าเสื่อม

สาเหตุของเข่าเสื่อม เกิดจากกระดูกอ่อนที่ทำหน้าที่ปกป้องส่วนปลายกระดูกข้อต่อเสื่อมลง ซึ่งทำให้เกิดอาการที่ได้กล่าวในข้างต้นตามมา เข่าเสื่อมที่มาจากสาเหตุอื่นหรือไม่ทราบสาเหตุ มีดังต่อไปนี้



-อายุ เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด ซึ่งความเสี่ยงในการเกิดเข่าเสื่อมจะมีมากขึ้นเมื่อมีอายุที่มากขึ้น แต่ก็สามารถเกิดกับผู้ที่อายุยังน้อยได้เช่นกัน โดยความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีอายุ 40 ปี ขึ้นไป

-การบาดเจ็บ ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรืออุบัติเหตุ และแม้ว่าจะได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติแล้ว แต่ก็ยังเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดเข่าเสื่อมได้ในอนาคต

-เพศ เพศหญิงมีโอกาสเกิดเข่าเสื่อมได้มากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปี ขึ้นไป แต่ในกรณีนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

-โรคอ้วน ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินหรือเป็นโรคอ้วน อาจทำให้ข้อต่าง ๆ โดยเฉพาะข้อเข่าต้องรับน้ำหนัก 3-4 เท่าต่อน้ำหนักตัว  ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงให้เข่าเสื่อมได้เมื่อเวลาผ่านไป

-กรรมพันธุ์ ผู้ป่วยข้ออักเสบบางรายจะพบว่ามีประวัติของคนในครอบครัวเป็นโรคเข่าเสื่อม

เกิดจากโรคข้ออักเสบชนิดอื่น ๆ เข่าเสื่อมอาจมีสาเหตุจากโรคข้ออักเสบชนิดอื่น ๆ ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดการทำลายของข้อต่อ เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เก๊าท์

นอกจากนั้น ผู้ที่ประกอบอาชีพที่ต้องยกของหนักหรือแบกรับน้ำหนักมาก ๆ เป็นเวลาติดต่อกันยาวนาน ก็จะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดเข่าเสื่อมได้มากขึ้น



อาการเริ่มแรกที่เตือนให้รู้ว่าเข่ากำลังมีปัญหา

เจ็บปวด เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด อาจเป็นปวดแบบเมื่อยๆ พอทน ปวดแบบเป็นๆ หายๆ หรือในรายที่เข่าได้รับบาดเจ็บ จะปวดแบบเฉียบพลันและปวดรุนแรง



เข่าบวม เข่าที่บวมทันทีภายหลังจากได้รับบาดเจ็บ มักเกิดจากมีเลือดออกภายในข้อเข่า บวมที่เกิดขึ้นช้าๆ มักเกิดจากมีความผิดปกติขององค์ประกอบภายในข้อเอง



เข่าอ่อนหรือเข่าสะดุดติด อาจเกิดจากสาเหตุหลายประการ แต่ที่พบบ่อยคือ เกิดจากมีบางสิ่งบางอย่างภายในข้อ ทำให้งอ หรือเหยียดเข่าในทันทีทันใดไม่ได้ เช่น เส้นเอ็นหรือกระดูกอ่อนที่ฉีกขาด หรือเศษกระดูกที่หยุดอยู่ในข้อ

เข่าฝืดหรือยึดติด อาจเป็นเฉพาะบางช่วงเวลาของวัน เช่น ตอนเช้าหลังตื่นนอน นั่งนานๆ แล้วลุกขึ้น หรือเกิดขึ้นภายหลังจากได้รับบาดเจ็บที่ข้อเข่า



เมื่อปรากฎอาการดังกล่าวแล้วแสดงว่า ท่านเริ่มมีปัญหาของข้อเข่า ควรให้ความสนใจอย่างจริงจัง และพิจารณาดูว่า มีอะไรเป็นสาเหตุดังกล่าว จะเป็นต้องเริ่มต้นฝึกออกกำลังกล้ามเนื้อของข้อเข่าให้แข็งแรงขึ้น ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่จะให้หลักประกันได้ว่า ท่านจะสามารถยืนและเดินอยู่บนขา และเข่าของตนเองได้ตลอดไป

บิม100 อาการโรคข้อเข่าเสื่อม ลดการอักเสบข้อเข่า





บิม100 อาการโรคข้อเข่าเสื่อม ลดการอักเสบข้อเข่า

สอบถามเพิ่มเติม

https://www.bim100foryou.com/

โทร 094-709-4444 ,  089-071-8889,

        094-435-0404 , 088-826-4444

ไลน์:  @jumbolife หรือคลิกลิ้งค์  https://line.me/R/ti/p/%40jumbolife



โรคข้อเข่าเสื่อม คือ ภาวะที่กระดูกอ่อนผิวข้อเข่า มีการสึกหรอและเสื่อมอย่างช้าๆ และจะเป็นมากขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ทำให้เกิดอาการปวดเข่า เข่าบวม ข้อยึดติด มีเสียงดังในเข่า เข่าผิดรูปไม่สามารถประกอบกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ



โรคข้อเข่าเสื่อมนี้เกิดจากการเสื่อมตามอายุขัยส่วนใหญ่ เกิดกับข้อใหญ่ๆ เช่น ข้อสะโพก ข้อเข่าและข้อกระดูกสันหลัง ปัญหาปวดเข่าพบได้มากในผู้สูงอายุหญิงมากกว่าชาย เนื่องจากขนบธรรมเนียมไทยที่ต้องนั่งคุกเข่าพับเพียบ ขัดสมาธิ ซึ่งเป็นท่าที่ทำให้ข้อเข่าถูกกดพับ และเอ็นกล้ามเนื้อถูกยึดมาก การนั่งเช่นนั้นนานๆ ทำให้การหมุนเวียนของเลือดไปเลี้ยงเข่าไม่ได้ดี และเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุไม่ค่อยชอบออกกำลังกาย อีกทั้งต้องทำงานหนักไม่มีการพัก ประกอบกับน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ทำให้เข่าต้องแบกน้ำหนักส่วนเกินนั้น กล้ามเนื้อจึงหย่อนสมรรถภาพลง จึงทำให้เป็นโรคเข่าเสื่อมได้ง่าย



สาเหตุหลักๆ ได้แก่



-เป็นผลจากความเสื่อม และการใช้เข่าที่ไม่ถูกต้องมานาน

-ความอ้วน น้ำหนักตัวมากๆ ทำให้เข่าต้องรับน้ำหนักเพิ่มขึ้น

-เคยได้รับอุบัติเหตุบริเวณเข่ามาก่อน เช่น กระดูกบริเวณเข่าหัก, ข้อเข่าเคลื่อนหลุด, เส้นเอ็นฉีกขาด หรือหมอนรองเข่าฉีกขาด

-โรคข้ออักเสบ เช่น โรคเก๊าท์ หรือโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เป็นต้น



อาการของโรคข้อเข่าเสื่อม



โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นโรคที่พบในผู้ป่วยสูงอายุ แต่ผู้ป่วยที่มีโรคข้อเรื้อรังเช่นโรครูมาตอยด์ โรคเกาต์ หรือผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุที่ข้อเข่า ก็อาจจะเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมในขณะที่อายุยังไม่มาก โดยเฉพาะคุณผู้หญิงจะมีโอกาสเป็นข้อเสื่อมได้มากกว่าผู้ชาย เนื่องจาก ความ แข็ง แรงของกระดูกและกล้ามเนื้อน้อยกว่าผู้ชาย อาการที่สำคัญได้แก่ อาการปวดเข่า เป็นอาการ ที่สำคัญเริ่มแรกจะ ปวดเมื่อยตึงทั้ง ด้าน หน้าและด้านหลังของเข่าหรือบริเวณน่อง เมื่อเป็นมากขึ้นจะปวดบริเวณเข่าเมื่อมีการเคลื่อนไหว ลุกนั่งหรือเดินขึ้นบันได ไม่คล่อง เหมือนเดิม



มีเสียงในข้อ เมื่อเคลื่อนไหวผู้ป่วยจะรู้สึกมีเสียงในข้อและปวดเข่า

อาการบวม ถ้าข้อมีการอักเสบก็จะเกิดข้อบวม

ข้อเข่าโก่งงอ อาจจะโก่งด้านนอกหรือโก่งด้านใน ทำให้ขาสั้นลงเดินลำบากและมีอาการปวดเวลาเดิน

ข้อเข่ายึดติด ผู้ป่วยจะไม่สามารถเหยียดหรืองอขาได้สุดเหมือนเดิมเนื่องจากมีการยึดติดภายในข้อ



ปัจจัยที่ทำให้เกิดข้อเสื่อม



-อายุ อายุมากมีโอกาสเป็นมากเนื่องจากอายุการใช้งานมาก

-เพศหญิงจะเป็นโรคเข่าเสื่อมมากกว่าผู้ชาย 2 เท่า

-น้ำหนัก ยิ่งน้ำหนักตัวมากข้อเข่าจะเสื่อมเร็ว

-การใช้ข้อเข่า ผู้ที่นั่งยองๆ นั่งขัดขัดสมาธิ หรือนั่งพับเพียบนานๆจะพบข้อเข่าเสื่อมเร็ว

-การได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเข่า ผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุที่ข้อเข่าไม่ว่าจะกระดูกข้อเข่าแตกหรือเอ็นฉีก จะเกิดข้อเข่าเสื่อได้ความ แข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก

-ผู้ที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและได้รับแคลเซียมในปริมาณที่พอเพียงจะชะลอการเสื่อมของเข่า

บิม100 น้ำมังคุด สาเหตุโรคข้อเข่าเสื่อม




บิม100 น้ำมังคุด สาเหตุโรคข้อเข่าเสื่อม

สอบถามเพิ่มเติม

https://www.bim100foryou.com/

โทร 094-709-4444 ,  089-071-8889,

        094-435-0404 , 088-826-4444

ไลน์:  @jumbolife หรือคลิกลิ้งค์  https://line.me/R/ti/p/%40jumbolife



การป้องกันเข่าเสื่อม



การป้องกันเข่าเสื่อมไม่ให้ทรุดลงหรือกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากนัก สามารถทำได้ด้วยการดูแลรักษาสุขภาพ ทั้งการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย หรือการควบคุมน้ำหนัก หากปรับพฤติกรรมเหล่านี้ให้ไปในทางที่ดีขึ้นได้ นอกจากจะดีต่ออาการของข้อเสื่อมแล้ว ยังมีผลดีต่อสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วยอีกด้วย



เข่าเสื่อมจะพบมากในวัยกลางคนจนไปถึงผู้สูงอายุ หากไม่ได้รับการรักษา โรคก็จะดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ และเมื่อมีการเคลื่อนไหวก็จะทำให้เกิดการเสียดสีจนสึกกร่อน รู้สึกฝืดที่ข้อเข่า เข่าผิดรูปและทำให้เกิดความเจ็บปวด หรือทำให้เกิดความยากลำบากและความไม่สะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน



อาการเข่าเสื่อม



เมื่อต้องเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมบางอย่าง จะทำให้มีอาการเจ็บปวดและรู้สึกฝืดที่ข้อเข่า ทำให้เคลื่อนไหวได้ไม่สะดวก รวมไปถึงเมื่อไม่ได้เคลื่อนไหวนาน ๆ ก็อาจทำให้เจ็บปวดและรู้สึกฝืดขัดที่ข้อเข้าได้เช่นกัน อาการอื่น ๆ ของเข่าเสื่อม



ผู้ที่มีอาการสำคัญของเข่าเสื่อม เช่น อาการเจ็บปวด ข้อเข่าฝืด รวมไปถึงอาการที่กล่าวไปข้างต้น หากมีอาการติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาและหาทางรักษา เพราะหากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้อาการมีความรุนเแรงยิ่งขึ้น


สาเหตุของเข่าเสื่อม



สาเหตุของเข่าเสื่อม เกิดจากกระดูกอ่อนที่ทำหน้าที่ปกป้องส่วนปลายกระดูกข้อต่อเสื่อมลง ซึ่งทำให้เกิดอาการที่ได้กล่าวในข้างต้นตามมา เข่าเสื่อมที่มาจากสาเหตุอื่นหรือไม่ทราบสาเหตุ



การวินิจฉัยเข่าเสื่อม



แพทย์จะเริ่มต้นจากการถามประวัติ เช่น อาการ โรคประจำตัว หรือพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน และตรวจสอบอาการต่าง ๆ จากการตรวจเข่า เช่น อาการบวมแดง อาการกดเจ็บ และดูการเคลื่อนไหวของข้อเข่า เพื่อช่วยให้วินิจฉัยได้ละเอียดและหาสาเหตุได้ชัดเจนยิ่งขึ้น หรือวินิจฉัยหาสาเหตอื่น ๆ ด้วยการตรวจเพิ่มเติม ได้แก่ เอกซเรย์ (X-rays) หรือใช้เครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging: MRI)



นอกจากนั้น แพทย์อาจตรวจน้ำในไขข้อหรือตรวจเลือด เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจทำให้มีอาการปวดข้อหรืออาการที่คล้ายเข่าเสื่อม เช่น รูมาตอยด์ โรคเก๊าท์  การอักเสบหรือการติดเชื้อต่าง ๆ

Bim100 อาการกระดูกผุ กระดูกพรุน โรคข้อเข่าเสื่อม




Bim100 อาการกระดูกผุ กระดูกพรุน โรคข้อเข่าเสื่อม

สอบถามเพิ่มเติม

https://www.bim100foryou.com/

โทร 094-709-4444 ,  089-071-8889,

        094-435-0404 , 088-826-4444

ไลน์:  @jumbolife หรือคลิกลิ้งค์  https://line.me/R/ti/p/%40jumbolife



เข่าเสื่อม (Knee Ostoearthritis) เกิดจากความเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนที่ข้อเข่า โดยมีสาเหตุสำคัญคืออายุที่มากขึ้น รวมไปถึงสาเหตุอื่น ๆ เช่น มีน้ำหนักตัวมาก เกิดอาการบาดเจ็บ หรือกรรมพันธุ์



อาการเข่าเสื่อม



เมื่อต้องเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมบางอย่าง จะทำให้มีอาการเจ็บปวดและรู้สึกฝืดที่ข้อเข่า ทำให้เคลื่อนไหวได้ไม่สะดวก รวมไปถึงเมื่อไม่ได้เคลื่อนไหวนาน ๆ ก็อาจทำให้เจ็บปวดและรู้สึกฝืดขัดที่ข้อเข้าได้เช่นกัน อาการอื่น ๆ ของเข่าเสื่อม ได้แก่



เมื่อต้องเคลื่อนไหวจะมีเสียงเสียงลั่นในข้อ

มีอาการกดเจ็บ

เข่าอ่อนแรงและเสียมวลกล้ามเนื้อ

ข้อเข่าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เต็มที่ เสียความยืดหยุ่น ข้อติดหรือขยับได้ยาก มักจะเกิดขึ้นเวลาเช้าหรือต้องนั่งเป็นเวลานาน ทำให้เกิดความยากลำบากเวลาเดิน ขึ้นบันได หรือลุกจากเก้าอี้

ผู้ที่มีอาการสำคัญของเข่าเสื่อม เช่น อาการเจ็บปวด ข้อเข่าฝืด รวมไปถึงอาการที่กล่าวไปข้างต้น หากมีอาการติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาและหาทางรักษา เพราะหากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้อาการมีความรุนเแรงยิ่งขึ้น



สาเหตุของเข่าเสื่อม


สาเหตุของเข่าเสื่อม เกิดจากกระดูกอ่อนที่ทำหน้าที่ปกป้องส่วนปลายกระดูกข้อต่อเสื่อมลง ซึ่งทำให้เกิดอาการที่ได้กล่าวในข้างต้นตามมา เข่าเสื่อมที่มาจากสาเหตุอื่นหรือไม่ทราบสาเหตุ มีดังต่อไปนี้



อายุ เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด ซึ่งความเสี่ยงในการเกิดเข่าเสื่อมจะมีมากขึ้นเมื่อมีอายุที่มากขึ้น แต่ก็สามารถเกิดกับผู้ที่อายุยังน้อยได้เช่นกัน โดยความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีอายุ 40 ปี ขึ้นไป

การบาดเจ็บ ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรืออุบัติเหตุ และแม้ว่าจะได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติแล้ว แต่ก็ยังเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดเข่าเสื่อมได้ในอนาคต

เพศ เพศหญิงมีโอกาสเกิดเข่าเสื่อมได้มากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปี ขึ้นไป แต่ในกรณีนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

โรคอ้วน ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินหรือเป็นโรคอ้วน อาจทำให้ข้อต่าง ๆ โดยเฉพาะข้อเข่าต้องรับน้ำหนัก 3-4 เท่าต่อน้ำหนักตัว  ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงให้เข่าเสื่อมได้เมื่อเวลาผ่านไป



การผ่าตัด



สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและการรักษาอื่น ๆ ไม่เป็นผล การผ่าตัดก็จะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่แพทย์จะใช้ในการรักษา โดยจะมี 3 รูปแบบ ได้แก่ การผ่าตัดเพื่อให้ผิวข้อเข้ามาชิดกัน (Arthrodesis) ศัลยกรรมเปลี่ยนข้อเข่า (Arthroplasty) หรือการตัดเปลี่ยนแนวกระดูก (Osteotomy) เป็นต้น วิธีการผ่าตัดขึ้นกับความเหมาะสมในแต่ละบุคคล โดยมีการปรึกษาร่วมกันทั้งประโยชน์และภาวะแทรกซ้อนก่อนการผ่าตัด

กรรมพันธุ์ ผู้ป่วยข้ออักเสบบางรายจะพบว่ามีประวัติของคนในครอบครัวเป็นโรคเข่าเสื่อม

Bim100 สร้างน้ำหล่อเลี้ยงเข่า โรคข้อเข่าเสื่อม





Bim100 สร้างน้ำหล่อเลี้ยงเข่า โรคข้อเข่าเสื่อม

สอบถามเพิ่มเติม

https://www.bim100foryou.com/

โทร 094-709-4444 ,  089-071-8889,

        094-435-0404 , 088-826-4444

ไลน์:  @jumbolife หรือคลิกลิ้งค์  https://line.me/R/ti/p/%40jumbolife



โรคข้อเข่าเสื่อมและวิธีการถนอมข้อเข่าเทียม หมายถึง โรคที่เกิดจากความเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อ ทั้งทางด้านรูปร่าง โครงสร้าง การท้างานของกระดูกข้อต่อและกระดูกบริเวณใกล้ข้อ การเปลี่ยน แปลงที่เกิดขึ้นไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิมและอาจมีความเสื่อมรุนแรงขึ้นตามลำดับ



โรคข้อเข่าเสื่อม” เกิดจากการใช้งานข้อต่อเนื่องยาวนานจนทำให้กระดูกอ่อน ผิวข้อสึกกร่อน ผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวดข้อขณะเคลื่อนไหว เข่าผิดรูปโก่งงอ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก



เกี่ยวกับโรคข้อเข่าเสื่อม น่าสนใจว่า...ปัจจุบันไม่เฉพาะคนแก่เท่านั้นที่เป็น คนกลางคน...ก็เป็นได้ นพ.ศริษฏ์ หงษ์วิไล ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ ศูนย์ข้อสะโพกและข้อเข่ากรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ บอกว่า จริงๆแล้ว สถิติคนไทยป่วยเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม ข้อมูล ณ ปี 2553 เป็นอยู่ 6-7 ล้านคน



ปัญหาสำคัญมีว่า...พอเป็นโรคแล้วส่งผลกระทบในเรื่องคุณภาพชีวิต มากขึ้น พบว่า ที่พบเพิ่มขึ้นตั้งแต่อายุ 45 ปีก็เริ่มมีอุบัติการณ์ที่เป็นข้อเข่าเสื่อมสูงขึ้น มีรายงานบ่อยขึ้น...อาจจะยังเป็นจำนวนไม่มาก แต่ก็เกิดขึ้นได้



สาเหตุที่เกิดมีอยู่ 2 หลักใหญ่ๆ หนึ่ง...แรงที่กระทำกับข้อเยอะเกินปกติและเป็นเวลานาน เช่น ในกลุ่มที่เป็นนักวิ่งมาราธอน จะพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นข้อเข่าเสื่อมในอนาคตจะสูงกว่าคนทั่วไปถึง 3 เท่าตัว



ถัดมา...กลุ่มที่มีพยาธิสภาพในข้อเข่า เช่น มีอุบัติเหตุมาก่อน อาจจะมีกระดูกหักหรือมีผิวกระดูกที่บาดเจ็บมาก่อน อย่างนักฟุตบอลที่เอ็นฉีกขาด ทำให้พยาธิสภาพในเข่าเปลี่ยนแปลงไปไม่สมดุล เสียความมั่นคง



อีกปัจจัยก็คือ “โรคประจำตัว” เช่น พวกที่เป็นรูมาตอยด์...ข้ออักเสบอยู่บ่อยๆ ก็อาจจะทำให้ข้อเสื่อม สึกได้เร็วขึ้น ในกลุ่มคนอายุน้อยจะพบสาเหตุใหญ่ๆก็คือ เกิดอุบัติเหตุมาก่อน กระดูกหัก ทำให้แนวแกนขาเปลี่ยนไป อาจเป็นกระดูกหน้าแข้ง กระดูกต้นขาหัก หรือกระดูกตรงเข่าหัก ทำให้การรับแรงเปลี่ยนไปเกิดเสื่อมสึกได้



กรณีถัดมาก็จะเป็นกลุ่มที่มีโรคประจำตัวอย่างที่กล่าวไปแล้ว รวมถึงโรคเลือดบางชนิดที่ไม่ค่อยพบในเมืองไทย เช่น เลือดข้นผิดปกติ อย่างที่สามพวกที่เรียกว่า ดื่มเหล้า สูบบุหรี่เยอะ จะทำให้กระดูกตายได้



“หลักๆในบ้านเราจะเป็นเช่นนี้ น้ำหนักเยอะก็เป็นปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะบีเอ็มไอที่เกิน 40 จริงๆน้ำหนักเกินมากไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าเกินบีเอ็มไอ 40 จะเป็นเยอะเลย...โอกาสที่เป็นสูงขึ้นเยอะ”



อาการแรกของคนที่เป็นข้อเข่าเสื่อมจะเริ่มจากปวดเข่าบ่อยๆ แต่การปวดแบบนี้ก็มีหลายลักษณะหลายแบบ...ปวดเวลาทำอะไร ส่วนมากข้อเข่าเสื่อมจะปวดตอนนั่งยอง นั่งคุกเข่า พับเพียบ จะเริ่มปวด



หรือ...ปวดตอนขึ้นลงบันได รู้สึกปวดมาก อยู่ท่านั้นนานๆไม่ไหว อาจจะต้องปรึกษา คุยกับคุณหมอดูว่า...เริ่มเป็นเข่าเสื่อมแล้วหรือยัง หรือว่าเป็นอย่างอื่น ก็มีโอกาสเป็นได้หรือยัง สัญญาณต่อมาก็คืออาจจะมีเข่าบวม เข่าอุ่น...บวมร้อน ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีการอักเสบตรงข้อเข่า ข้อเข่ามีปัญหา