วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

สาเหตุข้อเข่าเสื่อม บิม100 น้ำมังคุด ช่วยโรคข้อเข่าเสื่อม





ดูแลสุขภาพข้อเข่าเสื่อม บิม100 น้ำมังคุด ช่วยโรคข้อเข่าเสื่อม

สอบถามเพิ่มเติม

https://www.bim100foryou.com/

โทร 094-709-4444 ,  089-071-8889,

        094-435-0404 , 088-826-4444

ไลน์:  @jumbolife หรือคลิกลิ้งค์  https://line.me/R/ti/p/%40jumbolife


เข่าเสื่อม (Knee Ostoearthritis) เกิดจากความเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนที่ข้อเข่า โดยมีสาเหตุสำคัญคืออายุที่มากขึ้น รวมไปถึงสาเหตุอื่น ๆ เช่น มีน้ำหนักตัวมาก เกิดอาการบาดเจ็บ หรือกรรมพันธุ์


เข่าเสื่อม



เข่าเสื่อมจะพบมากในวัยกลางคนจนไปถึงผู้สูงอายุ หากไม่ได้รับการรักษา โรคก็จะดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ และเมื่อมีการเคลื่อนไหวก็จะทำให้เกิดการเสียดสีจนสึกกร่อน รู้สึกฝืดที่ข้อเข่า เข่าผิดรูปและทำให้เกิดความเจ็บปวด หรือทำให้เกิดความยากลำบากและความไม่สะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน



อาการเข่าเสื่อม



เมื่อต้องเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมบางอย่าง จะทำให้มีอาการเจ็บปวดและรู้สึกฝืดที่ข้อเข่า ทำให้เคลื่อนไหวได้ไม่สะดวก รวมไปถึงเมื่อไม่ได้เคลื่อนไหวนาน ๆ ก็อาจทำให้เจ็บปวดและรู้สึกฝืดขัดที่ข้อเข้าได้เช่นกัน อาการอื่น ๆ ของเข่าเสื่อม ได้แก่



เมื่อต้องเคลื่อนไหวจะมีเสียงเสียงลั่นในข้อ

มีอาการกดเจ็บ

เข่าอ่อนแรงและเสียมวลกล้ามเนื้อ

ข้อเข่าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เต็มที่ เสียความยืดหยุ่น ข้อติดหรือขยับได้ยาก มักจะเกิดขึ้นเวลาเช้าหรือต้องนั่งเป็นเวลานาน ทำให้เกิดความยากลำบากเวลาเดิน ขึ้นบันได หรือลุกจากเก้าอี้

ผู้ที่มีอาการสำคัญของเข่าเสื่อม เช่น อาการเจ็บปวด ข้อเข่าฝืด รวมไปถึงอาการที่กล่าวไปข้างต้น หากมีอาการติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาและหาทางรักษา เพราะหากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้อาการมีความรุนเแรงยิ่งขึ้น



ข้อเข่าเสื่อมพบในวัยใดบ้าง



          โรคข้อเสื่อมมีความสัมพันธ์อย่างมากกับอายุ โดยทั่วไปจะพบมากในช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไปและพบสูงถึงร้อยละ 60 ในกลุ่มที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตามโรคข้อเสื่อมไม่ได้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามวัยหรือจากการสึกหรอตามธรรมชาติเสมอไป





 โรคข้อเสื่อมเป็นการเปลี่ยนแปลงในเซลล์และเนื้อกระดูกอ่อนข้อต่ออย่างเป็นขั้นเป็นตอน จนทำให้โครงสร้างและการทำงานของกระดูกอ่อนเสียไป ซึ่งติดตามด้วยกระบวนการซ่อมแซมกระดูกอ่อนและปรับแต่งกระดูก การลุกลามของอาการข้อเสื่อมจึงแตกต่างกันไป บางรายเกิดการลุกลามอย่างรวดเร็วที่ข้อหนึ่ง แต่ข้ออื่นๆ กลับเป็นไปอย่างช้าๆ บางครั้งก็อาจจะดีขึ้นเอง นั่นคือ มีการซ่อมแซมให้คืนสภาพเดิมทำให้อาการปวดลดลง



          มีการศึกษาที่น่าสนใจ คือ เมื่อติดตามผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อเสื่อมเป็นเวลา 10 ปีขึ้นไป ด้วยภาพรังสีพบว่า ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วย โรคไม่ได้ลุกลามมากขึ้น ร้อยละ 10 มีภาพรังสีดีขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตามภาพรังสีที่พบไม่ได้สัมพันธ์กับอาการแสดงของผู้ป่วยโดยตรง ดังนั้น จึงเป็นเรื่องยากสำหรับแพทย์ที่จะพยากรณ์โรคหรืออธิบายการดำเนินโรค แต่ที่ทราบแน่ชัดคือปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ข้อเสื่อมลุกลามเร็ว ได้แก่ การบาดเจ็บบริเวณข้อ การบิดหมุนข้อหรือมีแรงกระทำซ้ำๆ ข้ออักเสบเกาต์ และความผิดปกติตามระบบประสาทกล้ามเนื้อ



 วิธีการรักษาในปัจจุบัน



          ปัจจุบันยังไม่มีวิธีซ่อมแซมหรือเปลี่ยนกระดูกอ่อนข้อต่อที่สึกหรออย่างมีประสิทธิภาพ จุดประสงค์ในการรักษา คือ ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยว่าโรคข้อเสื่อมไม่ใช่โรคร้ายแรงหรือก่อให้เกิดทุพพลภาพมากมาย ผู้ป่วยสามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ข้อเสื่อมลุกลามได้ เช่น ควบคุมน้ำหนัก ลดน้ำหนักรับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่โดยเฉพาะกลุ่มวิตามิน ออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อรอบๆ ข้อแข็งแรงและให้ข้อยืดหยุ่นได้ดี ทั้งนี้ ควรเป็นกีฬาที่ผ่อนคลายและไม่มีการปะทะรุนแรง เช่น ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เดินเร็ว เป็นต้น การออกกำลังกายอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอจะช่วยชะลอการเสื่อมหรือลดอาการปวดได้อย่างมาก



          ยาและอาหารเสริมบางชนิดสามารถเปลี่ยนโครงสร้างกระดูกอ่อนข้อต่อได้ แต่ข้อเสียคือ ออกฤทธิ์ช้า มีราคาแพง และไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่มีข้อเสื่อมรุนแรง ส่วนการรักษาด้วยการผ่าตัดและการเปลี่ยนข้อเข่าเทียมจะสามารถระงับอาการปวดในผู้ป่วยที่รับประทานยาแก้ปวดลดอักเสบแล้วไม่ได้ผล ปัจจุบันความก้าวหน้าทางการแพทย์ทำให้ภาวะแทรกซ้อนและอัตราการตายจากการผ่าตัดมีน้อยมากเนื่องจากเป็นการผ่าตัดแบบแผลเล็กและใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนำทาง ทำให้มีความแม่นยำมาก มีการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อน้อย ผู้ป่วยจะฟื้นตัวจากการผ่าตัดได้เร็ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น