วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2560

หลินจือมิน เห็ดหลินจือแดง ดูแลสุขภาพโรคภูมิแพ้ ความดันโลหิตสูง โทร 088 8...







หลินจือมิน เห็ดหลินจือแดง ดูแลสุขภาพโรคภูมิแพ้ ความดันโลหิตสูง 

สอบถามรายละเอียด

http://www.Linhzhiminkorea.com

โทร 089-071-8889 , 094-709-4444 , 094-435-0404

LINE ID : @Jumbolifeshop

https://www.facebook.com/LINHZHIMIN2U




โรคภูมิแพ้แบ่งได้ 4 ประเภท และการรักษาเมื่อรู้ตัวว่าเป็นภูมิแพ้


โรคภูมิแพ้ เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกาย ไวต่อโปรตีน หรือสารก่อภูมิแพ้จากสิ่งแวดล้อม ซึ่งปกติแล้ว สารเหล่านี้จะไม่มีผลอันตราย ต่อผู้ที่มีภูมิคุ้มกันปกติ ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้จะไวต่อ ฝุ่น, เชื้อราในอากาศ, ขนสัตว์, เกสรดอกไม้ หรือแม้แต่อาหารที่ทานเป็นประจำ โรคภูมิแพ้จัดอยู่ในโรคที่พบบ่อยมากที่สุด ในประเทศไทย เรียกได้ว่าประชากรเกือบครึ่งหนึ่ง ของประเทศจะมีปัญหาโรคภูมิแพ้


โรคภูมิแพ้มีสาเหตุมาจากอะไร

1. กรรมพันธุ์ ถ้าในครอบครัว มีคนเป็นภูมิแพ้ 2 ใน 4 คนนั่นหมายถึงว่า อัตราเสี่ยงของรุ่นต่อไปก็จะมีเพิ่มขึ้น ยิ่งถ้าพ่อ หรือแม่เป็น ก็จะยิ่งมีความเสี่ยงสูงขึ้นไปด้วย ในเด็กผู้ชายจะเป็นมากกว่าเด็กผู้หญิง



2. สิ่งแวดล้อม สารก่อภูมิแพ้ มักจะเกิดจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราเป็นส่วนใหญ่ ทำให้คนมักจะเป็นภูมิแพ้จากสิ่งแวดล้อมมากกว่า ไม่ว่าจะที่เข้าโดยการหายใจ หรือจากการรับประทาน หรือจากการสัมผัส สารก่อภูมิแพ้บางอย่างสังเกตได้ง่าย เช่น อาหาร โดยเฉพาะอาหารทะเลเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่มีคนแพ้มากที่สุด คนที่แพ้อาจมีผื่นลมพิษทันที ภายในครึ่งชั่วโมงเท่านั้น หรือการทำงานบ้าน ที่ต้องเจอกับฝุ่น การออกไปนอกนอกบ้านที่ต้องเจอกับควัน และมลพิษ การแฟ้ขนของแมว หรือสุนัข ล้วนแต่เป็นสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้ได้ทั้งสิ้น



นอกจากนี้อาจจะมีปัจจัยอื่นร่วม ที่ทำให้อาการกำเริบ หรือเป็นรุนแรงขึ้น เช่น อากาศที่หนาวเย็นจนเกินไป หรืออากาศเปลี่ยนกระทันหัน


โรคภูมิแพ้ สามารถแบ่งได้ตามอวัยวะ 4 โรค

ได้แก่การเกิดภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ทางผิวหนัง ภูมิแพ้ประเภทแพ้อาหาร รวมไปถึงการเกิดอาการผสมกันในหลายระบบของร่างกาย ที่ส่งอันตรายต่อชีวิต







1. ภูมิแพ้ในระบบทางเดินหายใจ หรือโรคแพ้อากาศ

 ภูมิแพ้ชนิดนี้ จะเกี่ยวข้องกับจมูก เพราะจมูก เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของ ระบบทางเดินหายใจ เพื่อใช้กรองฝุ่น หรือสิ่งแปลกปลอม และใช้ปรับอุณหภูมิของร่างกาย ก่อนที่จะผ่านลงไปสู่หลอดลม ซึ่งภายในจมูกจะมีโพรงจมูก และเมื่อเยื่อบุโพรงจมูกสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ก็จะเกิดการอักเสบ ผู้เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดนี้ จะมีการตอบสนองทางกลิ่น หรืออากาศที่หายใจเข้าไปค่อนข้างสูง และไวกว่าคนปรกติ โดยเฉพาะกับ เกสรดอกไม้ ฝุ่น ไรฝุ่น ควันต่าง ๆ และขนสัตว์



อาการของโรค



จะมีอาการคักจมูก น้ำมูกไหล ( น้ำมูกสีใส ) จามบ่อย คันในจมูก และมีเสมหะไหลลงคอ โดยไม่มีอาการไข้ร่วมด้วย บางครั้งอาจมีอาการคันตา และมักจะมีอาการเรื้อรัง เป็น ๆ หาย ๆ อาการของโรคจะเป็นหนัก และบ่อยขึ้นเมื่อเข้าสู่ ฤดูหนาว ช่วงเวลาที่มักจะทำให้เกิดโรคได้ง่ายคือ ช่วงเช้าและกลางคืน จะเป็นอยู่ประมาณ 2 - 3 ชม. แล้วอาการก็จะดีขึ้น ให้ระวังโรคแทรกซ้อน คือ โรคไซนัส และนอนกรน



การดูแลรักษา



สำหรับเด็กทารก ควรให้ทานนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน เพราะในนมแม่มีภูมคุ้มกันที่ดี และต้านทานต่อโรคภูมิแพ้ สำหรับผู้ใหญ่ ควรทานอาหาร ที่มีประโยชต่อร่างกาย ให้ครบทั้ง 5 หมู่ ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ ประมาณ 3 - 4 วัน/อาทิตย์ และควรดูแลห้องนอนไม่ให้สกปรก หมั่นซักและนำเครื่องนอนออกตากแดด เพื่อฆ่าตัวไรฝุ่น ไม่ควรใช้หมอนหรือที่นอนที่ทำจากนุ่น ไม่ใช้พรม และงดการสูบบุหรี่ในบ้าน  เลือกใช้ผ้าใยสังเคราะห์พิเศษเพื่อคลุมที่นอนและหมอน เพื่อป้องกันไรฝุ่น หรือเลือกใช้เครื่องกรองอากาศ สำหรับผู้ที่อยู่ห้องแอร์



หรือถ้าต้องการใช้ยา ก็ให้ใช้ยาต้านฮีสตามีน หรือยาแก้แพ้แบบรับประทาน ยาลดจมูกบวม แก้คัดจมูก สำหรับใครที่มีอาการหอบหืด ก็ให้ใช้ยาพ่นจมูกเป็นประจำ เพื่อป้องกัน



2. ภูมิแพ้ในระบบผิวหนัง ลมพิษ ผิวหนังอักเสบ





เป็นโรคที่ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด จะมีแนวโน้มทางพันธุกรรมมากที่สุด ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีผิวหนังที่ไวต่อสภาพแวดล้อมรอบตัว ทั้งสภาพอากาศร้อน เย็น แห้ง ชื้น เชื้อโรคและสารเคมีที่ระคายผิวหนัง ผื่นผิวหนังอักเสบ มักมีอาการมากขึ้น ในช่วงฤดูหนาว เพราะความชื้นในอากาศต่ำ หรือแม้แต่ความเครียด วิตกกังวลมากเกินไป ก็สามารถไปกระตุ้นโรคใ ห้กำเริบได้ ผู้ที่ครอบครัวไม่เคยมีประวัติ การเป็นภูมิแพ้ ก็สามารถเป็นได้เช่นกัน เพราะความผิดปกติซ่อนเร้น อยู่ในยีน ของครอบครัวผู้ที่เป็น



อาการของโรค



จะมีอาการคัน เกิดตุ่มนูน หรือผื่นแดง ถ้าผื่นนี้เป็นมานาน จนเข้าสู่ระยะเรื้อรัง จะพบเป็นแผ่นหนาแข็ง มีขุย ทำให้ผิวเป็นรอยแผลเป็น มักจะเป็นในบริเวณ หน้า คอ ข้อพับ ข้อศอก มือ และเท้า พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ หรือในบางราย ตุ่มหรือผื่นอาจมีหนองร่วมด้วย เพราะเกิดการติดเชื้อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น